ประกันรถยนต์ชั้น 1
รายละเอียดความคุ้มครองประกันชั้น 1
เปรียบเทียบความคุ้มครองประกันภัย
ความคุ้มครอง
ประกันภัย
รถชนรถ
ไม่ใช่รถ
ภัยพิบัติ
ทรัพย์สินอื่นๆ
ค่ารักษาพยาบาล
พยาบาล
หรือทุพพลภาพ
โปรโมชั่น
บทความ
FAQ
คำตอบนี้ เราจะพูดถึงในส่วน ที่ผู้เอาประกัน ได้รับทราบตามเงื่อนไขกรมธรรม์ที่เลือกไว้ ก็คือกรณี ที่เกิดอุบัติเหตุขึ้น แล้วประกันจ่าย ซึ่งจะให้ความคุ้มครอง ครอบคลุมครบ ได้แก่
- รถชน แบบมีคู่กรณี โดยเจ้าของรถยังอยู่เคลียร์ สามารถเรียกประกันคุ้มครองได้
- รถชน แต่ไม่มีคู่กรณี ซึ่งเราอาจถอยไปชนเอง หรือ มีคนมาเฉี่ยวท้ายรถแล้วหนี
- เมื่อเกิดเหตุโจรกรรม รถหาย ไม่สามารถตามหาเจอได้ ประกันนี้คุ้มครองความเสียหายให้
- รถเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นสิทธิคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันชั้น 1
- ครอบคลุมการรักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ เมื่อบาดเจ็บ และ ค่าใช้จ่ายความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งตัวเรา และคู่กรณี พูดง่ายๆ ก็คือ ประกันชั้น 1 ซ่อมเขา+ซ่อมเรา+สูญหาย+ไฟไหม้+น้ำท่วม+รักษาพยาบาล ได้หมด!!
ใช่ว่า มีประกันชั้น 1 แล้วจะโมเม หลอกเคลมฟรี ทุกครั้งไป คงไม่ได้เพราะประกันชั้น 1 ก็มีเงื่อนไขที่ไม่สามารถคุ้มครองได้อยู่ นั่นก็คือ…
- ตั้งใจชนให้เกิดอุบัติเหตุ ตรงนี้ใครหัวหมอ ชอบชนเพื่อเอาประกันอดนะ ถ้าเค้าสืบรู้ความจริง
- รถติดก๊าซ NGV หรือ LPG โดยไม่ได้แจ้งบริษัทประกันเมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้น ประกันจะไม่รับผิดชอบส่วนนี้และคุณจะเป็นฝ่ายผิด
- เมาแล้วขับ ไม่ว่าจะเกิดอุบัติเหตุอย่างไร ถ้าตรวจพบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกินขนาด
- ชำระเบี้ยประกันไม่ครบ หากค้างจ่ายเบี้ยประกัน หรือ จ่ายล่าช้าเมื่อเกิดอะไรขึ้นส่วนนี้ ประกันไม่จ่ายแน่นอน
- นำรถไปใช้ผิดวิธี คือ นำรถไปบรรทุกคน หรือ ของหนักเกินไปจนเกิดอุบัติเหตุ
- นำรถไปก่อความเสียหาย เช่น นำไปประท้วง ก่อม็อบสร้างความรุนแรงในพื้นที่ฉุกเฉิน
- ชนแล้วหนี กรณีนี้ประกันไม่จ่าย แล้วยังมีโอกาสขึ้นศาลด้วย
- เกิดอุบัติเหตุเองไม่มีคู่กรณี แต่ไม่สามารถระบุสาเหตุใดๆได้อาจต้องเสียค่า Excess เอง
หลายคนสงสัยว่า หากเราซื้อประกันชั้น 1แล้วคุ้มครองครอบคลุม ถ้าเราเป็นฝ่ายผิดทั้งหมดล่ะ ประกันยังจะคุ้มครองอยู่ไหม?
คำตอบคือ ยังคงคุ้มครองเหมือนเดิม แม้เราจะเป็นฝ่ายผิด จะได้ทั้ง
- ค่าซ่อมแซมรถยนต์
- ค่ารักษาพยาบาล
- ค่าประกันตัว
- กรณีมีผู้เสียชีวิตแล้วต้องขึ้นศาล และค่าชดเชยอื่นๆ ตามมูลค่าที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ที่เลือก ต่อให้เป็นฝ่ายผิดบริษัทประกันก็ยินดีชดใช้ค่าเสียหายให้
- หากเราเป็นฝ่ายถูก เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วไม่มีใบขับขี่ เรายังคงได้รับความคุ้มครองจากประกัน โดยบริษัทประกัน จะเรียกร้องค่าเสียหายจาก ประกันรถยนต์ของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด
- หากเราเป็นฝ่ายผิด แน่นอน ไม่ว่าจะมีใบขับขี่แล้ว แต่ลืมพก หรือ ใบขับขี่หมดอายุ หรือ ใบขับขี่ถูกยึด ทางประกันก็ยังคุ้มครองทั้งฝั่งเราและคู่กรณี แต่หากไม่เคยสอบใบขับขี่มาก่อน และ เป็นฝ่ายผิด อันนี้ประกันไม่คุ้มครอง แต่จะชดเชยความเสียหายให้กับบุคคลภายนอก ที่ได้รับผลกระทบจากการขับขี่ของเรา ตามระบุไว้ในกรมธรรม์
- ประกันชั้น 1 จะครอบคลุม ความคุ้มครองทุกอย่าง ของคนเอาประกัน คือ ซ่อมเขา+ซ่อมเรา+สูญหาย+ไฟไหม้+น้ำท่วม+รักษาพยาบาล ได้หมด!!
- ประกันชั้น 2+ จะลดความคุ้มครองจากประกันชั้น 1 ไปนิดเดียว คือ หากชนโดยไม่มีคู่กรณี เราจะไม่ได้รับความคุ้มครองใดๆ ต้องจ่ายค่าซ่อมเอง และค่าเบี้ยประกันถูกกว่า ประกันชั้น 1 ทั้งหมดนี้ ก็คือคำตอบที่เรารวบรวมมา สำหรับคนที่สงสัยว่า ประกันชั้น 1 คุ้มครองอะไรบ้าง และ ไม่คุ้มครองอะไรบ้าง หากใครกำลังมองหาการทำประกันรถยนต์ ลองมาเทียบประกันที่ใช่ และรับสิทธิพิเศษดีๆได้ที่นี่เลย Priceza Money
สำหรับคนมีรถยนต์ การดูแลรักษาไม่ให้เกิดความเสียหาย เป็นเรื่องที่ทำได้ หากมีสติ และรู้จักขับขี่อย่างปลอดภัย แต่เรื่องที่ยากกว่านั้นคือ เราไม่สามารถควบคุมสถานการณ์บนท้องถนนได้ทั้งหมด ถ้าเราไม่ชนใคร จู่ๆวันหนึ่งก็อาจจะมีคนมาชนเราได้ ดังนั้น การทำประกันรถยนต์ไว้ ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายใดๆ โดยทั่วไป เรามักจะ ทำประกันชั้น 1 เพราะได้การคุ้มครองที่ครบครัน แต่บางคนก็เลือกเพียงแค่ประกันชั้น 2+ เท่านั้น ( แบบ 2 พลัสนะ ไม่ใช่ 2 เฉยๆ มันจะต่างกัน) แล้วทั้งสองประเภทนี้แตกต่างกันอย่างไร แบบไหนเหมาะกับเรา ลองดูความแตกต่างตามนี้เลย!!
ประกันชั้น 1 ขับขี่อุ่นใจ ไปไหนก็คุ้มครองครบ
ประกันชั้น 1 ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าชั้น 1 นั่นแปลว่า จะต้องมีความพิเศษกว่าใคร เพราะเป็นประกันแบบทำทีเดียว เหมาหมด คุ้มครองทุกสถานการณ์ได้อย่างครบถ้วน ทั้งรถชน รถหาย ภัยธรรมชาติ และยังจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้อีกด้วย โดยประกันชั้น 1 จะคุ้มครอง….
- หากเกิดรถชน จนเป็นรอย แต่ไม่มีคู่กรณี ระบุสาเหตุไม่ได้ ซึ่งเราอาจถอยไปชนเอง หรือ มีคนมาเฉี่ยวท้ายรถแล้วหนี
- หากเกิดรถชน แบบมีคู่กรณี โดยเจ้าของรถยังอยู่เคลียร์ สามารถเรียกประกันคุ้มครองได้
- เมื่อเกิดเหตุโจรกรรม รถหาย ไม่สามารถตามหาเจอได้ ประกันนี้คุ้มครองความเสียหายให้
- รถเสียหายจากภัยพิบัติต่างๆ เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม เป็นสิทธิคุ้มครองเพิ่มเติมจากประกันชั้น 1
- ครอบคลุมการรักษาพยาบาลของผู้ขับขี่ เมื่อบาดเจ็บ และ ค่าใช้จ่ายความเสียหายต่อทรัพย์สินทั้งตัวเรา และคู่กรณี
ประกันชั้น 1 มีไว้ถือว่าอุ่นใจ หายห่วง ไม่ว่าเดินทางไปไหน ก็ครอบคลุมครบหมด เหมาะกับ รถใหม่ป้ายแดง รถที่เพิ่งซื้อได้ระยะ 1-7 ปี หรือ คนที่ไม่มั่นใจในการขับขี่ ขับรถยังไม่คล่อง ควรซื้อประกันภัยชั้น 1 ไว้ ช่วยได้เยอะ!!
ประกันชั้น 2+ คุ้มครอง “รถชนรถ”
จำให้แม่นเลย ถ้าจะซื้อประกันชั้น 2+ แตกต่างจาก ชั้น 1 เพราะประกันนี้ จะคุ้มครองกรณี รถชนรถเท่านั้น ก็คือ รถถูกชนแบบมีคู่กรณี ถ้าบังเอิญ ถอยรถไปชนเสา หรือเหตุใดๆ ที่เกิดขึ้นเองจนรถเป็นรอย โดยไม่มีคู่กรณี ประกันชั้น 2+ จะไม่คุ้มครอง
- ค่ารักษาพยาบาล และ ซ่อมรถเรา กับ คู่กรณี ยังมีให้เหมือนประกันชั้น 1
- กรณีรถหาย หรือ ไฟไหม้ น้ำท่วม ประกันชั้น 2+ ยังคุ้มครองค่าเสียหายให้
- ค่าเบี้ยประกันถูกกว่าประกันชั้น 1 แต่ได้เกือบความคุ้มครองเกือบครบ
ประกันนี้ เหมาะกับรถยนต์ทุกอายุการใช้งาน หรือ รถที่ใช้งานนานแล้ว แต่อยู่ในสภาพดี
จะเห็นได้ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 และ ชั้น 2+ มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย หากยังชอบความครบ เลือกประกันชั้น 1 หากขับรถคล่องแคล่วปลอดภัยดี ให้เลือกเป็น 2 + ไว้คุ้มครองก็อุ่นใจได้เหมือนกัน
ส่วนใหญ่ ซื้อรถยนต์มา หลายคนยังไม่ค่อยรู้ด้วยซ้ำ ว่า ประกันรถยนต์ชั้น 1 เคลมอะไรได้บ้าง เพราะรู้แค่การคุ้มครองพื้นฐาน และรู้แค่ว่า มันคือประกันชั้น 1 ยังไงมันก็ทำได้หมดแหละ ดังนั้น หากใครยังสงสัย เรามาดูกันเลย จะได้เข้าใจกันง่ายๆ เพราะไม่มีความยุ่งยากซ้ำซ้อนใดๆ สำหรับประกันชั้นสูงสุดนี้
- ซ่อมรถเขา และ รถเรา ตรงนี้เป็นส่วนที่คนสงสัยกันมาก ซึ่งหากเกิดกรณีรถชนรถ คือมีคู่กรณี ในที่เกิดเหตุ ทั้งรถของเขา และ รถของเรา มีความเสียหายเกิดขึ้น ประกันชั้น 1 จะคุ้มครอง และเคลมการซ่อมรถให้ทั้งสองฝ่ายได้
- ไม่มีคู่กรณีก็ซ่อมได้ เพราะหลายคนมักถอยรถชนเสา ชนกระถาง ชนฟุตบาท หรือ มีคนมาเฉี่ยวแล้วหนี หาคู่กรณีไม่ได้ ก็สามารถนำรถมาเคลมซ่อมได้ โดยจะต้องลงบันทึกหลักฐาน ทั้งภาพร่องรอยความเสียหาย ระบุบริเวณที่เกิดเหตุ และวัน เวลา ก็จะได้ความคุ้มครองตามทุนประกันที่เลือก แต่หากระบุไม่ได้เลย อาจเสียค่า Excess ประมาณ 1,000 บาท
- รถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม เกิดจากการโจรกรรม และ ภัยพิบัติต่างๆ โดยไม่คาดคิด จนรถเกิดความเสียหาย ก็สามารถยื่นเรื่องเคลม เพื่อรับสิทธิ์คุ้มครองค่าเสียหายได้
- ค่ารักษาพยาบาล ไม่ว่าอุบัติเหตุ จะทำให้ผู้ขับขี่ คู่กรณี หรือ ผู้โดยสารในรถ เกิดการบาดเจ็บ สามารถเคลมค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองตามกรมธรรม์ที่เลือกได้
- ค่าเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย กรณีเกิดอุบัติเหตุส่วนบุคคล ต่อคนขับ และผู้โดยสารในรถที่เอาประกัน เกิดเสียชีวิต หรือ ทุพพลภาพถาวร ประกันชั้น 1 จ่ายค่าเสียหายให้ หรือ หากรถของผู้เอาประกัน เกิดเฉี่ยวชนกับบุคคลภายนอก และบาดเจ็บ หรือ เสียชีวิต ประกันชั้น 1 ก็ดูแลเรื่องค่าเสียหายตามทุนประกันที่ระบุไว้ในกรมธรรม์
- ประกันตัวผู้ขับขี่ เมื่อผู้เอาประกัน เกิดอุบัติเหตุ และมีผู้เสียชีวิต หากกลายเป็นคดีอาญา ประกันชั้น 1 จะช่วยดูแลเรื่องประกันตัว ตามทุนประกันที่เลือกไว้ ถือว่าตอบโจทย์สำหรับคนต้องการทำประกันชั้น 1 มากทีเดียว
- เคลมฟิล์มกรองแสง (หากมีระบุในประกันที่เลือก) และกระจกส่วนต่างๆ เกิดความเสียหายจากอุบัติเหตุใดๆ ก็สามารถแจ้งเคลมเปลี่ยนกระจกได้ ซึ่งจะได้รับการเปลี่ยนฟิล์มกรองแสงด้วย โดยต้องแจ้ง เลขที่กรมธรรม์ ทะเบียนรถ ยี่ห้อฟิล์มติดรถยนต์ หรือใบรับประกันฟิล์ม
- เคลมช่วงล่าง สามารถเคลมได้ หากประกันที่เลือกมีระบุไว้ในเงื่อนไข ซึ่งโดยทั่วไป ถ้าช่วงล่างของรถ เกิดการชน หรือ อุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี ก็สามารถแจ้งเคลมกับประกันชั้น 1 เพื่อส่งซ่อมต่อไป
เห็นไหมว่า ประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 สามารถเคลมได้ตั้งหลายอย่าง จริงๆถ้าอยู่ในเงื่อนไขของกรมธรรม์ ก็เคลมได้รอบคันเลย แล้วแต่กรณี
รถยนต์ หากต้องการทำประกันภัยรถยนต์ ก็มักจะตั้งคำถามว่า ทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ไหนดี ซึ่งจริงๆแล้ว ประกันชั้น 1 มีบริษัทประกันภัยให้เลือกเยอะมาก คงต้องขึ้นอยู่กับความต้องการของแต่ละคน ว่าชอบสิทธิและเงื่อนไขของกรมธรรม์ที่ได้รับแบบไหน ในปี 2020 นี้ เราจึงเลือกประกันชั้น 1 ที่น่าสนใจ มาให้ลองตัดสินใจกัน
เจพี ประกันภัยรถยนต์ ประเภท 1
หลายคนอาจไม่คุ้นเคย กับประกันภัยชื่อนี้กันมากนัก เพราะเป็นประกันภัยน้องใหม่ ที่กำลังมาแรง อยู่ภายใต้เครือบริษัท เจมาร์ท เป็นประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ที่มาในราคาหลักพัน แต่มีความคุ้มครองที่ครบครันมาก ครอบคลุมทั้งบุคคลภายนอกและผู้เอาประกัน แถมคุ้มครองเพิ่มเติมในทุกกรณี ได้แก่
- ความคุ้มครองต่อบุคคลภายนอก ประกันรับผิดชอบทั้ง การบาดเจ็บ เสียชีวิต และ ทรัพย์สิน
- ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์ที่เอาประกัน ประกันรับผิดชอบทั้ง ทุนประกันสูงสุดตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไป ค่าความเสียหายส่วนแรก คุ้มครองรถสูญหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ความคุ้มครองเพิ่มเติม ทั้ง อุบัติเหตุส่วนบุคคลต่อคน ค่ารักษาพยาบาลต่อคน ประกันตัวผู้ขับขี่ต่อครั้ง คุ้มครองตัวรถยนต์ ซ่อมอู่ประกัน เมื่อรถชนรถ โดยมีคู่กรณี หรือ อุบัติเหตุโดยไม่มีคู่กรณี
ประกันภัยชั้น 1 ของเจพี มีให้เลือกหลายแพ็คเกจ แต่ที่คุ้มครบเลย คือ แพ็จเกจ ป.1 จี๊ดจ๊าด เริ่มต้นเพียง 7,700 บาท แต่คุ้มครองได้ครบทุกอย่างเลย คุ้มค่ามากสำหรับปีนี้
กรุงเทพประกันภัย ประเภท 1
ต้องยกให้เลย สำหรับการทำประกันภัยรถยนต์ของที่นี่ เพราะขึ้นชื่อในเรื่องของ เคลมง่าย จบไว แต่ก็อย่างที่รู้ กรุงเทพประกันภัย ก็จ่ายเบี้ยประกันราคาสูงนิดนึง ถึงอย่างนั้น ถ้าเทียบกับคุณภาพของชื่อเสียง ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะได้รับการคุ้มครองทุกกรณี ได้แก่
- ความคุ้มครองครบ ทั้งต่อตัวผู้เอาประกัน และ คู่กรณี เมื่อเกิดการบาดเจ็บ เสียชีวิต และ ทรัพย์สิน
- ความคุ้มครองความเสียหายของตัวรถยนต์ผู้เอาประกัน ทุนประกัน ค่าความเสียหาย คุ้มครองรถหาย ไฟไหม้ น้ำท่วม
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาล ทั้งผู้ขับขี่ คู่กรณี ผู้โดยสาร
ประกันชั้น 1 ของกรุงเทพประกันภัย ได้รับความน่าเชื่อถือเป็นอันดับต้นๆของไทย เคลมง่ายไม่จุกจิก บริการหลังการขายดีเยี่ยม แถมอู่ซ่อมยังรับรองคุณภาพ ได้อะไหล่แท้ด้วย ใครชอบการลงทุนกับประกันดีๆและคุ้มค่าแบบนี้ ลองเลือกใช้บริการกรุงเทพประกันภัยได้เลย
วิริยะประกันภัย ประเภท 1
ที่นี่ ถือว่าเป็นประกันภัยรถยนต์ ยอดนิยม ที่หลายๆคนมักมาเลือกใช้ประกันชั้น 1 กัน ซึ่งถึงแม้ราคาจะค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นเลิศด้านการบริการ Service ต่างๆ ทำได้ดี ดูแลเอาใจใส่ลูกค้า ความคุ้มครอง แทบไม่ต้องพูดถึง เพราะมีให้ครบครัน ได้แก่
- ความคุ้มครองความเสียหายต่อชีวิต และ ทรัพย์สิน ทั้งผู้เอาประกัน คู่กรณี และ ผู้โดยสาร
- ความคุ้มครองความเสียหายรถยนต์ของผู้เอาประกัน ทั้งที่มีคู่กรณี และ ไม่มีคู่กรณี
- ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลให้กับทุกฝ่าย
- ความคุ้มครองต่อความเสียหาย เมื่อรถหาย ไฟไหม้ หรือ น้ำท่วม
ประกันชั้น 1 ของวิริยะประกันภัย เหมือนซื้อความสะดวก และความสบายใจ ใครชอบประกันภัยนี้ ลองศึกษาเงื่อนไขเพิ่มเติมดูอีกครั้ง