เป็นนักศึกษามีบัตรเครดิตได้หรือเปล่านะ? คำตอบก็คือ มีได้แน่นอนจ้า … ที่จริงแล้วใครๆ ก็มีบัตรเครดิตได้ทั้งนั้นถ้าผ่านเกณฑ์ หรือหากเราไม่สามารถมีบัตรได้ด้วยตัวเอง ก็สามารถใช้บัตรเสริมได้เหมือนกัน แต่บทความนี้เราจะมาบอกเล่าถึง 5 สิ่งที่ต้องรู้ไว้สำหรับนักศึกษาที่อยากถือบัตรเครดิต ไปดูกัน
สิ่งแรก “ปรับแนวคิดกันก่อน”
ก่อนที่เราจะเริ่มเป็นเจ้าของบัตรเครดิต เราต้องรู้จักการใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด ต้องมีสติก่อนที่จะเริ่มใช้ เพราะการใช้บัตรเครดิตก็คือการนำเงินในอนาคตมาใช้ … ท่องเอาไว้ในใจได้เลยว่า “การใช้บัตรเครดิตก็คือการนำเงินในอนาคตมาใช้” ซึ่งไม่ใช่เงินจริงๆ ของเราในปัจจุบัน … หากเราขาดสติ เราก็จะตกเป็นทาสของบัตรเครดิต แต่ถ้าเราใช้อย่างมีสติ เราก็สามารถนำประโยชน์จากบัตรเครดิตมาใช้ได้เช่นกัน
การปรับแนวคิดก็คือ เราต้องคิดว่า … บัตรเครดิตเป็นเหมือนลูกน้องผู้ช่วยเรา อย่าให้ผู้ช่วย กลายเป็นเจ้านายของเรา ด้วยการใช้จ่ายอย่างมีสติ การจ่ายแต่ละครั้งต้องคิดเสมอว่าเราสามารถจ่ายต้นคืนได้ทุกบาททุกสตางค์ช่วงสิ้นเดือน เพราะหากเราจ่ายครบจบในสิ้นเดือน ดอกเบี้ยก็จะไม่เดิน … แต่ถ้าเราใช้จ่ายเกินตัว พอสิ้นเดือนจะจ่ายไม่ไหว ต้องไปจ่าย “ขั้นต่ำ” ของยอดชำระ … ดอกเบี้ยบัตรจะเริ่มเดินตั้งแต่วันที่เรารูดใช้ และนั่นเราจะกลายเป็นทาส หรือลูกน้องของบัตรทันที แทนที่เราจะเป็นเจ้านายมัน
สิ่งที่สอง “อย่ามีบัตรหลายใบจนเกินไป”
สิ่งต่อมาที่เราควรรู้เพื่อการใช้บัตรเครดิตอย่างฉลาด ก็คือ การมีบัตรเครดิตนั้นถ้ามีหลายใบเกินไปเราจะสับสนงงงวย เวลาที่ถึงกำหนดชำระจะงงๆ ว่าค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาจากไหน คำแนะนำก็คือ “อย่ามีบัตรหลายใบจนเกินไป” เพราะการมีบัตรหลายๆ ใบจนเกินจะทำให้เราสับสน และการวางแผนทางการเงิน การวางแผนที่จะใช้บัตรอย่างมีประสิทธิภาพก็จะยากขึ้น ซับซ้อนขึ้นโดยไม่จำเป็น
สิ่งที่สาม “ใช้คะแนนสะสมอย่างคุ้มค่า”
สำหรับคนที่ยังไม่เคยมีบัตรเครดิตบางคนอาจไม่รู้ว่าบัตรเครดิตนั้นมีการ “สะสมแต้ม” มีการแลกแต้ม การสะสมแต้มนั้นหากเราใช้เป็นก็จะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้มากมาก แต่หากเราใช้ไม่เป็นก็จะเสียประโยชน์ไปเปล่าๆ
การใช้บัตรเครดิตควรเลือกบัตรที่มีสิทธิพิเศษ มีการแลกแต้ม แลกคะแนนเยอะๆ ผมเคยใช้บัตรเครดิตของเจ้าหนึ่ง เขาให้แลกแต้มกินร้านอาหารญี่ปุ่น ได้ส่วนลดเพียบ ทำให้ประหยัดเงินค่าอาหารไปได้มาก … การเลือกเราควรดูไลฟ์สไตล์ส่วนตัวของเราเอง ถ้าเราชอบกินอาหารตามร้านอาหารในห้างฯ ควรเลือกบัตรที่ตอบสนองต่อการใช้งานของเราเป็นหลัก
สิ่งที่สี่ “ควรเลือกบัตรที่ไม่มีดอกเบี้ยเมื่อต้องผ่อนสินค้า”
บางครั้งเราต้องการสินค้าบางอย่าง แต่ไม่มีเงินก้อน เช่น โทรศัพท์มือถือซักเครื่อง เราซื้อเงินก้อนไม่ไหวก็ต้องผ่อนจ่ายเป็นธรรมดา หากบัตรใดไม่มีเงื่อนไขผ่อน 0% ไม่ควรใจอ่อนไปทำโดยเด็ดขาด เราต้องยึดมั่นในผลประโยชน์ของเราเป็นหลัก เลือกถือเฉพาะบัตรที่มีเงื่อนไขผ่อน 0% เท่านั้น เพราะเราจะไปรู้ได้อย่างไรว่าบางทีมันก็จำเป็นต้องใช้ ถ้าผ่อนจ่ายไร้ดอกเบี้ยมันประหยัดเงินไปได้มากอยู่นะ
สิ่งสุดท้าย “การชำระเงินบัตรเครดิต”
เมื่อเราได้เป็นเจ้าของบัตรเครดิตแล้ว และได้จับจ่ายใช้สอยด้วยบัตรเครดิตไปแล้ว ก็ถึงเวลาที่เราต้องชำระเงินที่เราได้จ่ายไปล่วงหน้า … โดยปกติแล้วบัตรเครดิตจะมีเวลาให้ชำระเงินหลังตัดรอบบิลประมาณ 15 วัน ดังนั้น หากบัตรเครดิตตัดรอบบิลไปแล้ว เมื่อเราสะดวกเมื่อไร ให้เรารีบไปจ่ายทันที ไม่ใช่มารอเอาวันท้ายๆ ค่อยไปจ่าย เพราะอาจมีเหตุการณ์ไม่คาดคิด เช่น มีธุระด่วนมาก ไปจ่ายไม่ทัน ดอกเบี้ยจะเดินทันที
วิธีการจ่ายก็ไม่ยาก ไปจ่ายโดยตรงที่สาขาของบัตรเครดิตนั้น ๆ หรือสาขาของธนาคาร ไม่ก็สามารถไปจ่ายที่เคาท์เตอร์เซอร์วิช ตามที่ต่างๆ หรือสามารถใช้วิธีการตัดจากบัญชีธนาคารที่เราผูกเอาไว้เลยยิ่งดี เพราะมันจะตัดเงินอัตโนมัติ ทำให้เราไม่ต้องพะวงว่าจะไปจ่ายไม่ทัน วิธีหลังถือว่าสะดวกมากๆ
หากเราไม่ไปจ่ายตามกำหนด ดอกเบี้ยบัตรเครดิตจะเริ่มนับตั้งแต่วันที่รูด และเต็มจำนวน แถมเป็นดอกเบี้ยรายวัน แม้ว่าเราจะจ่ายไปส่วนหนึ่งภายหลัง แต่ก็อาจไม่ได้หักเงินต้น ถ้าเราพลาดไปจริงๆ ต้องถามพนักงานตรงๆ ว่าเราต้องจ่ายเท่าไรจึงจะ cover ค่าใช้จ่ายทั้งหมด
