ชัวร์ ๆ ล่ะว่าการซื้อประกันรถยนต์ เราจะต้องพิจารณาจาก ‘เบี้ยประกันรถยนต์’ เป็นหลักก่อนที่จะควักเงินในกระเป๋าซื้อในแต่ละปี หากเบี้ยแพงราคาแรงเกินกว่างบประมาณที่เราวางไว้ อาจจะต้องมีการปรับเปลี่ยนหาเบี้ยที่ใช่ และหากใครมีคำถามว่า “ทำไมเบี้ยประกันรถของเราถึงแพงขึ้น เป็นเพราะสาเหตุอะไรกันนะ?” บทความนี้มีคำตอบ
1. เบี้ยแพง เพราะเคลมบ่อย ทำให้มีประวัติขับขี่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่
การเคลมนั้นเป็นปัจจัยที่เห็นได้ชัดเจน โดยเฉพาะการที่เราเคลมแบบเป็นฝ่ายผิด เพราะประวัติการขับขี่ไม่ค่อยดีนัก และมีมูลค่าการเคลมสูงกว่าเงื่อนไขที่บริษัทฯ กำหนด เป็นอีกปัจจัยทำให้เราไม่ได้รับค่าส่วนลดประวัติดีเพิ่มขึ้นจากเดิม
แปลง่าย ๆ คือ หากเราขับรถไม่ดี มีประวัติเคลมเป็นฝ่ายผิด จะทำให้เราได้รับส่วนลดประวัติดีน้อยลง และจ่ายเบี้ยประกันรถยนต์แพงขึ้น!!!
อย่างไรก็ดี การเคลมบ่อยยังคงยกเว้นกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ การเคลมแบบเราเป็นฝ่ายถูก ปีหน้าเรายังคงได้รับค่าส่วนลดประวัติดีเพิ่มขึ้น ทำให้เบี้ยประกันประหยัดขึ้นล่ะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาเบี้ยของบริษัทฯ ประกันด้วย
2. เบี้ยเพิ่ม เพราะแต่งรถยนต์
ปฎิเสธไม่ได้จริง ๆ สำหรับการเพิ่มเบี้ยประกันแบบเบี้ยเพิ่มเพราะการแต่งรถ เนื่องจากประกันจะรับผิดชอบเฉพาะอุปกรณ์ตกแต่งที่ออกมาจากโรงงานเท่านั้น หากเราตกแต่งรถยนต์เพิ่มต้องแจ้งบริษัทฯ เพื่อรับความคุ้มครองเพิ่มเติม และคำนวณเบี้ยประกันสำหรับรถแต่งและอุปกรณ์ เป็นมูลค่าทุนประกันใหม่ เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เบี้ยเพิ่มนั้นเอง
3. เบี้ยเพิ่มขึ้น เพราะการปรับจากบริษัทฯ ประกัน
ปัจจัยนี้ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ ขออ้างอิงข่าวช่วงเดือนมกราคม 2562 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวประชาชาติธุรกิจระบุว่า “ประกันรถ” จ่อคิวขึ้นค่าเบี้ย เหตุค่าเคลมพุ่ง-ผู้บริโภคอ่วม โดยเนื้อหาระบุเหตุผลว่า “จับตาบริษัทประกันทยอยปรับขึ้นค่าเบี้ย สมาคมวินาศภัยฯ แจงอุบัติเหตุสูงดันยอดเคลมพุ่งต่อเนื่อง 5 ปี คปภ.บังคับเพิ่มความคุ้มครองใหม่ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ให้แก่เจ้าของรถคู่กรณี กรณีรถของผู้ทำประกันภัยเป็นฝ่ายผิด ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2562” กลายเป็นอีกปัจจัยทำให้จ่ายเบี้ยประกันรถยนต์เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ ปัจจัยการปรับเบี้ยเพิ่มขึ้นที่เล่ามาเป็นเพียงตัวอย่างบางส่วนที่ใช้พิจารณาเท่านั้น หากคุณต้องการประหยัดเบี้ยประกันรถยนต์ ง่าย ๆ เลยเพียงขับดีไม่มีชน เลือกประกันแบบระบุผู้ขับขี่ หรือเลือกค่าเสียหายส่วนแรก (Deductible) ก็ช่วยได้ประหยัดได้เยอะเลยล่ะ
ขอบคุณข้อมูลจาก frank.co.th
