เดี๋ยวนี้รถยนต์บนท้องถนนในประเทศไทยนี่เยอะมากจริง ๆ นะ ลองสังเกตดูได้เลยถ้าใครอยู่บ้านหลังเดิมมาตลอด 10 ปี จะเห็นเลยว่ารถยนต์ที่เข้าออกในซอย หรือที่ขับผ่านหน้าบ้านไปนั้นเยอะขึ้นกว่าเดิมมาก ยิ่งถนนสายหลักยิ่งไม่ต้องพูดถึง ทั้งรถเยอะ ทั้งรถติด เดี๋ยวมือใหม่ เดี๋ยวมือเก่า ขับกันให้วุ่น ด้วยความที่รถมันเยอะนี่แหละทำให้อัตราการเกิดอุบัติเหตุสูงขึ้นเป็นเงาตามตัว เพื่อน ๆ ทุกคนจึงต้องเรียนรู้เรื่องของการเคลมประกันเอาไว้ด้วย เผื่อเวลาเกิดอุบัติเหตุรถชน จะได้รู้ว่าต้องเริ่มต้น ทำตัวยังไง
รถชน ไม่ต้องกลัว ทำตามนี้รับรองปลอดภัย
สาว ๆ ตัวคนเดียว หรือหนุ่ม ๆ มือใหม่ที่ไม่เคยผ่านประสบการณ์เฉี่ยวชนมาก่อนขอให้ทำความเข้าใจไว้ให้ดีเลยนะ เวลาเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับตัวจะได้รู้ว่าต้องรับมือกับมันยังไง
1. มีสติตลอดเวลา
อันดับแรกเลยไม่ว่าเราจะเป็นฝ่ายขับไปชน หรือเป็นฝ่ายถูกชน ให้เพื่อน ๆ ตั้งสติเอาไว้ อย่าลนลาน เพราะถ้าเราขาดสติอาจจะยิ่งเผลอทำให้เรื่องแย่เข้าไปใหญ่ อย่างการไปกดคันเร่ง พุ่งไปชนคันหน้าซ้ำอะไรทำนองนี้ เพราะฉะนั้นมีสติไว้ ปัญหาจะได้ไม่ร้ายแรง
2. อย่าขยับรถ
ด้วยนิสัยดั้งเดิมของคนไทยที่เป็นคนขี้เกรงใจ ทำให้หลายคนชนเสร็จก็กลัวว่ามันจะเกะกะชาวบ้านชาวช่องเค้า เลยรีบขยับรถออกมา เปลี่ยนมาจอดคุยกันข้างทาง ซึ่งตรงนี้แหละที่อาจทำให้พี่ประกันเค้าปวดหัว ดูไม่ออกว่าใครเป็นฝ่ายผิดฝ่ายถูก ถ้าทนไม่ไหวจริง ๆ อยากขยับรถออกจากจุดเกิดเหตุ ให้เราลงมาถ่ายรูปรถรอบคัน พร้อมทั้งจุดเกิดเหตุเอาไว้ก่อน พวกพื้นที่โดยรอบ และความเสียหาย เพื่อให้ประกันดูเป็นหลักฐานว่ากรณีนี้ใครเป็นฝ่ายผิด ใครเป็นฝ่ายถูก
3. โทรแจ้งประกัน
ค้นในเก๊ะรถเลยหาเบอร์บริษัทประกันภัยรถยนต์ โทรแจ้งรายละเอียด เช่น ทะเบียนรถ หมายเลขกรมธรรม์ ชื่อคนขับ เบอร์โทรศัพท์คนขับ วัน เวลาที่เกิดเหตุ สถานที่เกิดเหตุ บอกจุดเด่นให้เค้ารู้ด้วยจะได้หาเราเจอง่าย ๆ ลักษณะการเกิดอุบัติเหตุ รวมทั้งข้อมูลของคู่กรณีด้วยนะ ทั้งทะเบียนรถ จังหวัด ยี่ห้อ สี บอกไปให้หมด จากนั้นก็รอจนกว่าพี่ประกันเค้าจะมา
4. ไม่ตกปากรับคำ
ระหว่างที่รอประกันมาก็ไม่ต้องไปพูดอะไรเยอะนะ ทำความรู้จักคู่กรณีได้ แต่ไม่ใช่ไปยอมรับผิด หรือสัญญาว่าจะชดใช้อะไรทั้ง ๆ ที่ยังไม่รู้เลยว่าเราผิดจริงรึเปล่า การชนกันบางทีต่อให้เราเป็นคนขับชน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายผิดเสมอไป ขอให้จำตรงนี้ไว้ให้ขึ้นใจด้วยนะ
5. ประกันภัยตรวจสอบ และออกใบเคลม
ขั้นตอนสุดท้าย เมื่อพี่ประกันมาถึงเค้าก็จะเดินดูรอบ ๆ คัน ถามหาสาเหตุ เรียบเรียงเหตุการณ์ต่าง ๆ จนรู้ชัดว่าใครผิดใครถูก จากนั้นเค้าก็จะมีการสอบถามถึงจุดที่ชนว่าโดนตรงไหนบ้าง เพื่อออกใบเคลมให้เรา ซึ่งหลังจากนั้นทางประกันภัยเค้าจะแจ้งให้ทราบเองว่าต้องทำยังไงต่อไป
เคล็ดลับง่าย ๆ สำหรับใครที่ไม่อยากเรื่องมาก ถ้ามั่นใจว่าเราเป็นฝ่ายถูกแน่ ๆ ก็ให้คู่กรณีโทรหาประกันฝ่ายเค้ามาอย่างเดียวก็พอ เรารอประกันเค้ามาออกใบเคลมให้เราเท่านั้น แต่ถ้าไม่มั่นใจ หรือคู่กรณีไม่ยอมรับผิด แบบนี้เรียกประกันมาคุยกันดีกว่า
ส่วนเพื่อน ๆ คนไหนที่ขับชนไม่ว่าจะเบา หรือจะรุนแรงแค่ไหนก็ตาม บอกไว้ก่อนเลยว่า “ห้ามหนีเด็ดขาด” ให้แจ้งประกัน หรือโทรหาตำรวจเท่านั้น เพราะการหลบหนีจะยิ่งทำให้เรามีโทษทันที ซึ่งการชนกันครั้งนั้นอย่างที่บอกว่าเราอาจจะไม่ใช่คนผิดก็ได้ แต่ถ้าเพื่อน ๆ หนีเมื่อไหร่ ความผิดเราก็จะเริ่มต้นขึ้นเมื่อนั้น ซึ่งอาจร้ายแรงไปจนถึงต้องโทษในคดีอาญาได้เลย จากเรื่องเล็กจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ซะเปล่า ๆ และสุดท้ายหลังจากประกันเค้าเข้ามาตัดสินถูกผิดให้เราเรียบร้อยแล้ว เพื่อน ๆ ก็จะได้ใบเคลมมา ซึ่งเราสามารถเอาไปใช้เคลมกับอู่ไหนก็ได้ที่อยู่ในประกัน ซึ่งระหว่างที่เอารถเข้าซ่อมนี้ประกันภัยบางเจ้าเค้าก็จะมีสิทธิพิเศษให้ยืมรถไว้ใช้ระหว่างซ่อมด้วย
เพราะแบบนี้ไงก่อนตัดสินใจทำประกันภัยรถยนต์ เราถึงต้องเลือกกันดี ๆ รวมถึงการที่ต้องมีกล้องหน้ารถไว้เป็นสักขีพยาน เพราะนอกจากจะเป็นหลักฐานให้เราได้แล้ว ข้อดีอีกอย่างนึงของมันก็คือ ช่วยประหยัดค่าประกันภัยรถยนต์ไปได้เยอะ เพราะมีประกันหลายเจ้าเหมือนกันที่เค้ามีโปรโมชั่น ติดกล้องหน้ารถ ช่วยลดค่าประกัน ถ้าอยากรู้ว่าเป็นประกันตัวไหนเค้าเสนอส่วนลดให้ในเรื่องของกล้องหน้ารถ และมีรถยนต์ให้ใช้ฟรีระหว่างซ่อมก็สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ที่เว็บไซต์ Priceza Money เลย
