อย่างที่ได้ทราบกันดีเกี่ยวกับการทำประกันรถยนต์โดยทั่วไปว่า จะต้องมีการจ่ายค่าเบี้ยประกันและมีรูปแบบการประกันให้เลือกหลายรูปแบบ เมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ผู้เอาประกันภัยก็สามารถที่จะเคลมในส่วนของค่าเสียหายและบริการได้ตามสัญญากรมธรรม์ที่ระบุไว้ของชนิดและประเภทประกันที่ซื้อไว้นั่นเอง
ที่กล่าวมานั้นเป็นการทำประกันรถยนต์ทั่ว ๆ ไป แต่รถยนต์ที่มีมูลค่าสูงราคาหลายล้าน หรือหลายสิบล้าน ซึ่งเรียกกันว่าจัดอยู่ในกลุ่มประเภทรถหรู เช่นที่เรารู้จักกันดีคือ ประกันรถเบนซ์ ประกันรถ BMW และรถยี่ห้อหรูอื่น ๆ นั้นมีความเหมือนหรือแตกต่างกับประกันรถยนต์ธรรมดาอย่างไรบ้าง เนื่องจากรถหรูย่อมจะมีรายละเอียดของอะไหล่และส่วนต่าง ๆ ของรถยนต์ที่มีความพิเศษไปกว่ารถยนต์ทั่ว ๆ ไป ทั้งยังมีราคาที่แพงกว่า ยิ่งถ้าเป็นรถยนต์หรูที่นำเข้ามาและหาได้ยากมาก ๆ ในเมืองไทยของเรา การจะหาอู่ ศูนย์ซ่อม ช่างที่มีความสามารถในการซ่อมรวมถึงอะไหล่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย แถมยังมีราคาที่สูงกว่าอะไหล่และค่าแรงในการซ่อมรถทั่ว ๆ ไปอีกด้วย ซึ่งการประกันรถหรูจะมีข้อแตกต่างหรือเหมือนกับจากรถทั่วไปดังนี้ คือ
ราคาของเบี้ยประกันรถหรูจะสูงกว่ารถธรรมดาทั่วไป
ในการซื้อประกันรถยนต์หรู เช่นหากเพื่อน ๆ ต้องการซื้อประกันรถเบนซ์ ซึ่งอยู่ในกลุ่มรถยุโรปหรู เมื่อนำค่าเบี้ยประกันมาเปรียบเทียบกับรถยนต์โดยทั่ว ๆ ไปที่อยู่ในกลุ่มรถยนต์ธรรมดา แม้จะใช้ประกันประเภทเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นประกันชั้น 1 ประกันชั้น 2+ ประกันชั้น 3+ เหมือนกัน แต่การคำนวณค่าเบี้ยประกันของรถหรูเหล่านี้จะมีมูลค่าที่สูงกว่าเสมอ ไม่ว่าเพื่อน ๆ จะทำประกันกับบริษัทประกันภัยใด นั่นก็เป็นเพราะว่าความเสี่ยงต่อมูลค่าการให้บริการที่สูงกว่า ทั้งในส่วนของอะไหล่และฝีมือของช่าง การดำเนินการที่อาจจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายที่มากกว่า ยิ่งถ้ารถหรูคันนั้นเป็นรถที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ อะไหล่ก็จะหายากกว่าเมื่อเกิดเหตุให้ต้องซ่อมและเคลมอะไหล่ อะไหล่บางตัวก็ต้องใช้การนำเข้าอะไหล่ เป็นต้น
เงื่อนไขการเพิ่มทุนประกันรถหรู
หากรถยนต์ของเพื่อน ๆ เป็นรถยนต์ที่มีราคาสูง เมื่อเกิดความเสียหายถ้ารับการชดเชยค่าสินไหมด้วยมูลค่าประกันตามสัญญาโดยทั่วไป อาจจะไม่คุ้มกับมูลค่าความเสียหายที่เกิดขึ้น เช่นถ้าเพื่อน ๆ ประกันรถเบนซ์ราคาหลายสิบล้าน และเกิดความเสียหายขึ้น ทางบริษัทประกันอาจจะรับผิดชอบชดเชยค่าเสียหายในมูลค่าเป็น 75-80% จากราคาจริง หรือมีบริการซ่อมในวงเงินที่จำกัดไว้ ซึ่งสิ่งที่เจ้าของรถยนต์หรูควรพิจารณาก็คือการเพิ่มทุนประกันให้มากขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมถึงความคุ้มครองและชดเชยจำนวนเงินเมื่อเกิดเหตุการณ์ เพราะถ้ารถหรูของเราเกิดสูญหาย ไฟไหม้ หรือชนอย่างแรง เงินชดเชยที่ได้รับการเคลมในส่วนนี้จะครอบคลุมเพียงพอและเป็นที่พอใจแก่เจ้าของรถยนต์ในขณะที่ถ้าเป็นรถยนต์ธรรมดาการเพิ่มทุนประกันในส่วนนี้อาจจะไม่จำเป็น เพราะมูลค่าของรถยนต์เมื่อหักค่าเสื่อมไปแล้วเงินชดเชยกรณีดังกล่าวอาจจะไม่ได้น้อยไปกว่าความเสียหายที่ได้รับ ซึ่งสามารถชดเชยกันได้
ประกันเฉพาะสำหรับรถหรู
แน่นอนอยู่ว่าในการทำประกันรถยนต์ของทุกบริษัท มีแบบของประกันให้เลือกได้มากมายและแบบประกันชนิดที่ดีที่สุดเป็นแบบประกันที่คนนิยมกันมากที่สุดก็คือ ประกันชั้น 1 เพราะประกันชั้น 1 มีความคุ้มครองที่ครอบคลุมทุกอย่าง ทั้งในการซ่อมรถยนต์ของเราและรถยนต์คู่กรณี การชดเชยทรัพย์สิน สุขภาพและชีวิต การบริการที่ดีกว่าทั้งการซ่อมห้าง ซ่อมอู่ การบริการรถยนต์ที่ใช้แทนระหว่างซ่อมเป็นต้น สำหรับรถหรูนั้น หากเลือกประกันชั้น 1 ที่หลาย ๆ บริษัทมีโปรโมชั่นของประเภทรถหรูโดยตรง เช่นเมื่อเพื่อน ๆ นำรถเบนซ์ไปทำประกัน บริษัทมักจะมีประกันรถเบนซ์ที่แยกออกไปต่างหากจากรถทั่วไป และมีเงื่อนไขพิเศษให้สำหรับประกันชั้น 1 ซ่อมอู่เบนซ์โดยตรงเป็นต้น เมื่อมีรถหรูมูลค่าสูงก็ควรจะดูแลด้วยการเลือกประกันที่ดีกว่า แต่ในกรณีที่รถหรูของเพื่อน ๆ ใช้น้อย โอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงต่าง ๆ มีน้อยก็สามารถพิจารณาประกันประเภทที่รองลงมา แต่ยังคงเป็นประกันเฉพาะสำหรับรถหรูได้เช่นกัน
จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนแรก
ความแตกต่างอีกอย่างของการทำประกันรถหรูที่แตกต่างจากรถธรรมดาก็คือ โดยส่วนมากแล้วถ้ารถหรูของเพื่อน ๆ เป็นรถนำเข้าที่มีมูลค่าสูงและหาอะไหล่ได้ยาก เมื่อเกิดอุบัติเหตุหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น เช่นการเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีแล้วเราเป็นฝ่ายผิดหรือการชนกับสิ่งอื่น ๆ เช่นรั้วบ้าน การเกิดอุบัติเหตุทั่วไป ทำให้รถยนต์หรูพังเสียหาย ในหลาย ๆ บริษัทประกันภัยรถยนต์ มักจะมีเงื่อนไขให้เจ้าของรถยนต์จ่ายค่าใช้จ่ายส่วนแรกตามกำหนดในสัญญาเสียก่อน ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนแรกนี้จะมีราคาไม่เท่ากัน เช่นประกันรถ BMW รุ่นต่าง ๆ ประกันรถจากัวร์ ประกันรถเบนซ์ แต่ละยี่ห้อรถและรุ่นก็จะได้รับการคำนวณค่าใช้จ่ายส่วนแรกแตกต่างกันออกไปด้วย
