เรื่องของประกันภัยรถยนต์สำหรับมือใหม่คงมองว่าเป็นอะไรที่น่าปวดหัวไม่น้อยเลยนะ เพราะมีทั้งประกันภัยรถยนต์แบบ ชั้น 3 ชั้น 3+ ชั้น 2 ชั้น 2+ แล้วไหนจะชั้น 1 อีก พอจำนวนมันเยอะแบบนี้ก็แทบจะไม่อยากเรียนรู้กันแล้ว แต่ขอบอกไว้ก่อนเลยนะว่า ประกันแต่ละประเภทนั้นไม่ได้เข้าใจยากอย่างที่คิดเลย ถ้าค่อย ๆ ศึกษากันไปรับรองว่าต้องเข้าใจใน 5 นาทีแน่นอนค่ะ
อย่างวันนี้เราก็จะมาลงลึกเจาะประเด็นไปที่ประกันรถยนต์ชั้น 3 กับ 3+ กันเพื่อให้เพื่อน ๆ มือใหม่ค่อย ๆ ศึกษาถึงความแตกต่างของประกันภัยรถยนต์แต่ละชั้นไปในตัว โดยประกันรถยนต์ชั้น 3 เนี่ย เป็นประกันประเภทที่ให้ความคุ้มครองน้อยที่สุด และถูกที่สุด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนจะใช้บริการประกันภัยประเภทนี้เยอะสุดนะ เหตุผลเพราะอะไรนั้น เราไปดูกันเลยดีกว่า
เหตุผลที่ประกันภัยชั้น 3 ราคาถูก แต่คนใช้น้อย
น่าแปลกมั้ยที่ประกันชั้น 3 ซึ่งเป็นประกันภัยรถยนต์ที่มีราคาถูกที่สุด แต่กลับได้รับความนิยมแทบจะน้อยที่สุดเลยเช่นกัน ซึ่งหลาย ๆ คนอาจสงสัยว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เหตุผลมันมีอยู่ว่า…
ด้วยกับราคาเบี้ยประกันรถยนต์ชั้น 3 ที่ถูกเนี่ย ทำให้ความคุ้มครองความเสียหายของมันน้อยน้อยมาก เรียกง่าย ๆ ว่า ชนกันทีนี่ซ่อมให้แต่คู่กรณี ไม่ซ่อมให้ฝั่งตัวเองเลย เฉี่ยวชนเมื่อไหร่ ยังไงก็เสียเงิน นี่ยังไม่นับเรื่องโดนหิน ถอยชน ขับเฉี่ยว หรือโดนชนแล้วหนีอีกนะ ด้วยความคุ้มครองที่น้อยนิดนี่แหละ ทำให้คนเค้าไม่อยากใช้บริการประกันประเภทนี้กันสักเท่าไหร่
ประกันภัยชั้น 3 ดียังไง คุ้มครองอะไรบ้าง
ประกันภัยรถยนต์ชั้น 3 นี้เรียกได้ว่าเป็นกรมธรรม์ที่มีตัวเลขน้อยที่สุดแทบจะทุกอย่างเลย ตั้งแต่เบี้ยประกัน ไปจนถึงทุนประกัน แต่มากสุดอยู่อย่างเดียวคือ ชื่อของมันนี่แหละ ซึ่งประกันชั้น 3 นี้เค้าจะคุ้มครองเฉพาะคู่กรณีเท่านั้น ไม่คุ้มครองเจ้าของประกันอย่างเราแต่อย่างใด สิ่งที่เค้าคุ้มครองมีแค่ 2 อย่างคือ…
- ค่าใช้จ่ายความเสียหายในทรัพย์สินของคู่กรณี
- ค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลต่อร่างกายของคู่กรณี
ซึ่งการคุ้มครองที่น้อยนิดแตกต่างจากประกันภัยรถยนต์ประเภทอื่น ๆ เช่น ชั้น 2 ที่ครอบคลุมแผลไฟไหม้ หรือรถหาย ทำให้คนไม่ค่อยนิยมประกันชั้น 3 สักเท่าไหร่อย่างที่บอกไปนั่นเอง
แต่ถึงจะไม่นิยมก็ไม่ได้แปลว่าไม่มีใครใช้นะ เพราะคนที่เค้ามีรถยนต์ไว้ใช้ในเชิงพาณิชย์ ไม่ได้สนใจดูแลความเสียหาย หรือความสวยงามของรถยนต์ตัวเอง เค้าก็ยังคงใช้งานประกันประเภทนี้กันอยู่ เช่น แท็กซี่ รถตู้ เป็นต้น
ประกันภัยชั้น 3+ เพิ่มอะไร แตกต่างจากชั้น 3 ยังไงบ้าง
มาถึงคิวประกันภัยรถยนต์แบบ 3+ กันบ้างซึ่งแน่นอนว่ามี + แบบนี้แสดงว่ามันต้องเพิ่มความพิเศษอะไรขึ้นมาอยู่แล้ว แต่ความพิเศษที่ว่านี้จะเหนือล้ำและแตกต่างจากประกันรถยนต์ชั้น 3 ธรรมดายังไง และเค้าครอบคลุมความคุ้มครองในเรื่องใดบ้าง ไปดูกันเลยดีกว่า
- ค่าใช้จ่ายความเสียหายในทรัพย์สินของคู่กรณี
- ค่าใช้จ่ายค่ารักษาพยาบาลต่อร่างกายของคู่กรณี
- ค่าเสียหายรถยนต์คันเอาประกันภัย ในกรณีประสบอุบัติเหตุกับยานพาหนะทางบก
ข้อดีที่เพิ่มขึ้นมาของประกันภัยรถยนต์ 3+ ก็คือ มันคุ้มครองรถเราเองเวลาขับชนด้วยนี่แหละ คือ ถ้าเราขับไปชนเค้า รถเราเองก็ยังได้ซ่อมอยู่ดี ไม่ต้องเสียเงินซ่อมเองแบบที่ผ่านมา ซึ่งการเพิ่มความคุ้มครองข้อนี้ไปนั้นทำให้ประกันภัยรถยนต์ 3+ นี้เหมือนถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกับอุบัติเหตุบนท้องถนนโดยเฉพาะเลยล่ะ เพราะถ้าขับไปชนรถคนอื่นเค้าเนี่ย แบบนี้ได้เคลมแน่นอน
ถึงแม้เบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ นี้จะค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับประกันชั้น 3 ธรรมดา แต่บอกได้เลยว่าความคุ้มค่าที่เพิ่มขึ้นมานั้นทำให้มันน่าสนใจขึ้นเป็นกองเลยล่ะ และหลายคนก็ยอมควักกระเป๋าจ่ายเพื่อซื้อความสบายใจตรงนี้ซะด้วย
ทำไมเบี้ยประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ ถึงแพงกว่าชั้น 3 มาก
จริง ๆ แล้วจะบอกว่าแพงกว่ามากมันก็ดูเหมือนจะไม่ใช่ เพราะประกันชั้น 3 น่ะมันถูกเกินไปต่างหากล่ะ และที่มันราคาสูงกว่าก็มีเหตุผลเหมือนกัน เพราะประกันภัยรถยนต์ชั้น 3+ นี้มันมีเงื่อนไขการทำน้อยมาก แม้แต่รถสาธารณะหรือรถยุโรปก็ทำได้ เลยมีผู้ที่สนใจประกันประเภทนี้เป็นจำนวนมากพอสมควรนั่นเอง
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นนะคะ ถ้าจะทำประกันภัยทั้งทีแนะนำว่าให้ทำแบบชั้น 2 หรือไม่ก็ 2+ ขึ้นไปจะดีที่สุด เพราะด้วยกับเบี้ยประกันภัยที่ไม่ได้ต่างกันมากมาย แต่ความคุ้มครองที่มากกว่ากันแบบเทียบไม่ได้นี่แหละ ทำให้ยังไงประกันภัยทั้งชั้น 3 และชั้น 3+ ก็ยังเป็นตัวเลือกที่ควรเอาไว้ท้ายสุดอยู่ดี มันเหมาะกับรถจักรยานยนต์ซะมากกว่า เพราะทุนประกันกับราคาของจักรยานยนต์มันสอดคล้องกัน
ใครที่ใช้ยานพาหนะประเภทไหนก็ลอง ๆ ไปเลือกใช้ตามความต้องการ และความเหมาะสมกันเอาแล้วกันเนอะ ถ้าไม่รู้จะเลือกประกันแบบไหนดี ลองไปเปรียบเทียบประกันดูสิ ที่ Priceza Money มีประกันดีๆ ราคาโดนๆ รวบรวมไว้จากหลายบริษัทประกันทั่วประเทศเลยน้า
