สินเชื่อส่วนบุคคลสองประเภทที่ดูจะเหมือนกัน คล้าย ๆ กัน แต่แท้จริงแล้วเรื่องราวของสินเชื่อส่วนบุคคล กับบัตรกดเงินสดค่อนข้างจะ “แตกต่าง” กันอย่างมาก เรามาดูกันดีกว่าว่า ระหว่าง “สินเชื่อส่วนบุคคล” กับ “บัตรกดเงินสด” เลือกอะไรจะดีกว่ากัน และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ของทั้งสองอย่างเป็นอย่างไร
เรื่องราวของ บัตรกดเงินสด
สำหรับเรื่องราวของบัตรกดเงินสดนั้น เป็นสินเชื่อที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้เงินของคนส่วนใหญ่ หลายครั้งที่ในชีวิตของเราเกิดเหตุ “ฉุกเฉิน” ต้องใช้เงินด่วน และทางเลือกของเราก็ไม่อยากจะไปกู้นอกระบบ หรือธนาคารไม่มีนโยบายปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ ดังนั้นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อส่วนนี้ และทำบัตรกดเงินสด คือคำตอบที่ตรงประเด็นที่สุด
สำหรับบัตรกดเงินสดนั้น ถ้าเราคิดว่าอาจมีเหตุต้องใช้เงินแบบเร่งด่วน ควรไปสมัครบัตรกดเงินสดเอาไว้ใช้ได้เลย โดยสามารถสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่ในแต่ละสถาบันการเงินที่รับทำบัตรกดเงินสด พร้อมเตรียมเอกสารที่จำเป็นต้องใช้เมื่อไปสมัครรับบัตร
สมัครเสร็จแล้วเราจะได้บัตรกดเงินสดมาใช้ ให้เราใช้ยามจำเป็นจริง ๆ ข้อแนะนำก็คือ การใช้จ่ายของเราควรใช้จ่ายให้เพียงพอกับรายได้ของเราเสียก่อน หากเกิดเหตุเร่งด่วนจริง ๆ จึงค่อยกดเงินออกมาใช้จะดีกว่า เพราะทันทีที่กดเงินออกมาเราจะกลายเป็นลูกหนี้ของสถาบันการเงินทันที
อย่างไรก็ตามบางครั้งเราก็มีของที่อยากได้ หรือจำเป็นต้องใช้ หรืออยากซื้อของเพื่อตอบแทนใครซักคน เช่น คุณพ่อคุณแม่ที่เหนื่อยยากลำบากกายเลี้ยงดูเราจนเติบใหญ่ใฝ่ดี … ในกรณีนี้ก็สามารถกดเงินสดมาใช้จ่ายได้ แต่ต้องระมัดระวังการใช้จ่ายอย่าให้ฟุ่มเฟือยจนเกินไปนะครับ
เรื่องราวของ สินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อเงินสด
สำหรับเรื่องราวของสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อเงินสด จะแตกต่างจากบัตรกดเงินสดตรงรูปแบบของการรับเงิน เมื่อเราต้องการเงินเร่งด่วน และไปสมัครสินเชื่อส่วนบุคคล หรือสินเชื่อเงินสด พอผ่านการอนุมัติ จะได้รับเงินโอนเข้าบัญชีทันที และเราสามารถถอนเงินจากบัญชีออกไปใช้จ่ายได้นั่นเองครับ ข้อดีของสินเชื่อเงินสดก็คือ วงเงินที่ได้รับมักจะสูงกว่าบัตรกดเงินสดด้วยครับ
ความแตกต่างของสินเชื่อสองรูปแบบ อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสด และสินเชื่อเงินสด
โดยปกติแล้ว อัตราดอกเบี้ยของบัตรกดเงินสดมักจะสูงกว่าสินเชื่อเงินสด และหากเราไม่ได้กดเงินออกมาใช้จ่าย ก็ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยแต่อย่างใด แต่หากเรากดเงินออกมาใช้ จะต้องเสียดอกเบี้ยในอัตราที่ทางสถาบันการเงินนั้น ๆ กำหนดเอาไว้ แต่ไม่เกินกฎเกณฑ์ที่ทางรัฐบาลได้ตั้งเอาไว้ครับ และที่สำคัญเราสามารถจ่ายขั้นต่ำได้เพียง 3-5% ของยอดเงินที่เรากดมาใช้จ่าย เป็นเรื่องของความยืดหยุ่นที่มีสูง
สำหรับสินเชื่อเงินสดนั้น เมื่อเราได้รับอนุมัติ จะมีเงินก้อนโอนเข้ามาในบัญชีของเราทันที และเราต้องทยอยผ่อนคืนเป็นงวด ๆ แต่ละงวดเท่า ๆ กันจนครบจำนวนงวดที่กำหนดไว้ ข้อดีของสินเชื่อเงินสดก็คือ
- วงเงินที่ได้สูงกว่าบัตรกดเงินสด
- เมื่อได้รับอนุมัติเงินจะโอนเข้าบัญชีทันที และส่วนใหญ่ได้รับวงเงินราวห้าเท่าของรายได้ เช่นเรามีรายได้สองหมื่นบาทต่อเดือน ก็อาจได้รับวงเงินสูงถึงหนึ่งแสนบาท
- อัตราดอกเบี้ยจะเริ่มคิดจากยอดเงินที่ปล่อยออกมา แต่หลังจากเราเริ่มผ่อนค่างวด อัตราดอกเบี้ยจะคิดแบบรายวันลดต้นลดดอก แม้เรายังไม่ได้ใช้เงินที่ได้รับมาก็ตาม
- การผ่อนชำระค่างวดจะแจ้งมาอย่างชัดเจน เช่น ภายในหกเดือน หรือ 12 เดือน เดือนละเท่าไร
- สินเชื่อเงินสด กำหนดแบบผ่อนชำระตายตัว ทำให้เรามีวินัยในการใช้เงินที่ดีขึ้น
- อัตราดอกเบี้ยถูกกว่าบัตรกดเงินสด (ตามปกติทั่วไป)
ข้อสรุปเบ็ดเสร็จก็คือ … ทั้งบัตรกดเงินสด และสินเชื่อเงินสดมีข้อดีข้อด้อยแตกต่างกันออกไป หากเราจำเป็นต้องใช้เงินเร่งด่วนก็สามารถใช้บริการทางการเงินเหล่านี้ได้ แต่ควรมีวินัยในการผ่อนชำระเงินคืนอย่างเข้มข้นเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายในภายหลัง และท่านสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ pricza money นะครับ
