พูดถึงรถหรูซุปเปอร์คาร์ หลายคนคงนึกถึงความเท่ห์จากดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ ความเร็วแรงของเครื่องยนต์ และราคาที่แพงระยับกว่ารถยนต์ทั่วไปหลายต่อหลายเท่า แต่เคยรู้รึเปล่า ว่ารถซุปเปอร์คาร์เหล่านี้มีการจ่ายเบี้ยประกันอย่างไร จะเหมือนกับประกันรถยนต์ทั่วไปไหม และจะมีเงื่อนไขที่เหมือนหรือแตกต่างจากประกันรถยนต์ทั่วไปอย่างไร วันนี้เราจะมาเล่าให้ฟัง ..
จริงๆ เรื่องนี้เกิดขึ้นจากตัวผมเองครับ ที่เมื่อเช้าก็ขับรถไปทำงานตามปกติ แล้วโดนรถซุปเปอร์คาร์ขับแซงไปต่อหน้าต่อตา! โอ้ย คุณครับ มันเจ็บใจนะบอกเลย ใจนึงก็โกรธปนขำที่รถแรงแซงเขาบ้างไม่ได้ แต่ใจนึงก็ดันเกิดคำถามขึ้นมาว่า เอ๊ะ! บรรดารถซุปเปอร์คาร์ราคาแพงมหาศาลอย่าง ลัมโบร์กินี (Lamborghini), เฟอร์รารี่ (Ferrari), ปอร์เช่ (Porsche), บูกัตติ (Bugiti), แมคลาเรน (McLaren) และโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) หรือว่ารถหรูซุปเปอร์คาร์อื่นๆ ที่ได้ชื่อว่าเป็น รถหรูราคาแพง เขาจะมีประกันภัยรถยนต์ยังไงนะ จะใช้ประกันรถยนต์เหมือนรถบ้านแบบเรารึเปล่า จะได้ความคุ้มครอง และต้องจ่ายเบี้ยประกันเหมือนหรือแตกต่างจากรถทั่วไปอย่างไร ? เลยเป็นโอกาสดีที่จะได้รวบรวมข้อมูลมาฝากทุกคนกันครับ
ประกันรถซุปเปอร์คาร์ มีรายละเอียดอย่างไรบ้าง ?
เมื่อไม่นานมานี้หลายคนคงเห็นข่าว รถกระบะขับชนท้ายรถซุปเปอร์คาร์สุดหรู จากการที่รถกระบะต้องเบรกกะทันหันเนื่องจากมีการปิดช่องจราจร ซึ่งอุบัติเหตุนี้อาจไม่เป็นที่พูดถึงเลยก็ได้ หากรถคู่กรณีไม่ใช่ รถซุปเปอร์คาร์สุดหรู ยี่ห้อ “แมคลาเรน” รุ่น 720 เอส ซุปเปอร์คาร์ตัวท้อปที่มีราคาแพงหูฉี่ราว 30 ล้าน เพราะแน่นอนว่ารถราคาขนาดนี้ค่าซ่อมคงไม่ธรรมดา ดังนั้นจึงน่าจะตอบคำถามแรกของคนทั่วไปได้แล้วนะครับ ว่าเบี้ยประกันของรถซุปเปอร์คาร์ต้องมีราคาสูงกว่าประกันรถทั่วไปแน่นอน แต่เพื่อการดูแลรถซุปเปอร์คาร์ที่ดีที่สุด และครอบคลุมไปยังเหตุอันไม่คาดฝันเช่นนี้ การจ่ายเบี้ยประกันที่แพงขึ้นอีกระดับเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับรถซุปเปอร์คาร์สุดที่รักจึงเป็นสิ่งที่คุ้มค่าครับ แต่ก่อนจะลงลึกไปกว่านี้ ขออธิบายความหมายของรถซุปเปอร์คาร์เพิ่มอีกนิดหน่อยดังนี้ครับ
ซุปเปอร์คาร์ หรือรถยนต์สมรรถนะสูง (Super Car) หมายถึง รถยนต์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานด้านความเร็ว ตัวรถมีลักษณะสปอร์ต ใช้เทคโนโลยีการผลิตขั้นสูงมาพร้อมกับเครื่องยนต์ระดับไฮคลาส ซึ่งถ้าเกิดความเสียหายหรือต้องซ่อม จะส่งซ่อมที่อู่ทั่วไปไม่ได้ ต้องส่งซ่อมเฉพาะกับอู่ซ่อมของค่ายนั้น ๆ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากผู้ผลิตรถยนต์ค่ายนั้นเท่านั้น และเพื่อความเข้าใจที่ตรงกันอยากให้ทุกคนเข้าใจก่อนนะครับว่า ไม่ว่าจะเป็นประกันรถยนต์รูปแบบไหน รายละเอียดย่อมคล้ายคลึงกัน ความคุ้มครองใกล้เคียงกันเสมอ จะมีข้อแตกต่างเล็กน้อย ดังนี้
● เจ้าของรถซุปเปอร์คาร์ที่เป็นรถรุ่นพิเศษ จะต้องจ่ายเบี้ยประกันรถซุปเปอร์คาร์สูงกว่ารถยนต์ทั่วไป เนื่องจากทุนประกันสูงกว่า และต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก (Excess) มากกว่าเช่นกัน (ซึ่งปกติ เริ่มต้นจะไม่ต่ำกว่าหลักแสน ด้วยความที่รถหรูซุปเปอร์คาร์มีราคาหลายสิบล้านขึ้นไป)
● ส่วนใหญ่เจ้าของรถซุปเปอร์คาร์จะนิยมทำประกันชั้น 1 เนื่องจากให้ความคุ้มครองสูงที่สุด ดูแลทุกเหตุการณ์บนถนน เช่น ให้ความคุ้มครองผู้ขับขี่และผู้โดยสาร (คู่กรณี), คุ้มครองรถยนต์และทรัพย์สินของคู่กรณี, เคลมได้ทุกการชนซ่อมรถยนต์ของผู้เอาประกัน, คุ้มครองเมื่อรถยนต์เกิดการสูญหาย หรือไฟไหม้ น้ำท่วม, คุ้มครองชีวิตของผู้ขับขี่และผู้โดยสาร ช่วยชดใช้ค่ารักษาพยาบาลผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมทั้งมีวงเงินประกันตัว (ผู้ขับขี่) ในกรณีที่อุบัติเหตุก่อให้เกิดคดีอาญา ประกันจะเป็นผู้ช่วยให้คุณ
● แต่ก็มีข้อยกเว้น ที่ประกันชั้น 1 จะไม่รับคุ้มครองหากผู้ขับขี่มึนเมาสุรา หรือมีปริมาณแอลกฮอล์ในเลือดเกินกว่า 50 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ (ซึ่งแก้ไขใหม่ ตามคำสั่งของคปภ. เป็นไปตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522)
พิจารณาประกันรถซุปเปอร์คาร์
ส่วนใหญ่แล้วการทำประกันภัยรถยนต์ซุปเปอร์คาร์จะรับประกันจากผู้นำเข้าโดยตรงเป็นหลัก เห็นว่า เงื่อนไขความคุ้มครองกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์สมรรถนะสูง (Super Car) มีข้อกำหนดเบื้องต้นในการรับพิจารณาประกันภัยรถซุปเปอร์คาร์ต้องอยู่เกณฑ์ ดังนี้
● ต้องเป็นรถยนต์ที่มีจำนวนประตูรถน้อยกว่า 4 ประตู
● มีขนาดเครื่องยนต์ตั้งแต่ 2,000 ลูกบาศก์เซนติเมตร ขึ้นไป
● มีกำลังเครื่องยนต์ 250 แรงม้าขึ้นไป
● น้ำหนักรถยนต์น้อยกว่า 2,000 กิโลกรัม
● อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ได้ภายในเวลา 5 วินาทีหรือน้อยกว่า
● ความเร็วสูงสุด 250 กม./ชม. หรือมากกว่านี้
● ราคาขายปีแรกจากผู้จัดจำหน่ายเริ่มตั้นที่ 5 ล้านบาทขึ้นไป
ทั้งนี้การพิจารณาส่วนเบี้ยประกันรถซุปเปอร์คาร์นั้น จะต้องเช็คเบี้ยประกันรถยนต์ หรือสอบถามกับบริษัทฯ ประกันภัยเพื่อคำนวณค่าเบี้ย โดยจะพิจารณาเป็นกรณี ๆ ไปครับ
แต่สรุปแล้วก็คือ ประกันรถซุปเปอร์คาร์กับประกันรถยนต์ทั่วไปไม่แตกต่างกันเท่าไหร่ครับ เว้นเสียแต่ในส่วนของเบี้ยประกัน ที่ต้องจ่ายสูงกว่าเป็นไปตามราคารถที่สูงกว่าและนิยมทำเฉพาะประกันชั้น 1 เท่านั้นเพราะคุ้มครองแบบครอบคลุมสูงสุดนั่นเอง เป็นไงครับ
ขอบคุณข้อมูล Frank.co.th
