รวมเหตุผลที่รถโดนฝนแล้วต้องล้าง

0
1336

ฝนตกต้องล้างรถ เขาว่ากันว่า จะช่วยถนอมสีรถได้ แต่ช่วงไหนที่ฝนตกบ่อย ตกทุกวัน หลายคนคงเบื่อและขี้เกียจล้างรถ และมีความคิดว่า ล้างไปทำไม เดี๋ยวฝนก็ตกอีก วันนี้พี่หมี TQM จึงมีเหตุผลดีๆ มาบอกเพื่อนๆ ครับ ว่า ทำไมเราจึงต้องหมั่นล้างรถ หลังฝนตก ทั้งที่ล้างเสร็จ รถอาจจะกลับไปลุยฝนอีก

  1. คราบฝุ่นเกาะสะสม รถที่เปียกฝนมา พอแห้งแล้ว จะเห็นคราบฝุ่นเกาะอยู่จำนวนมาก หากไม่รีบล้างออก ฝุ่นจะยิ่งฝังไปในชั้นแล็กเกอร์ของสีรถ และถ้าปล่อยไว้นาน กลับมาล้างอีกทีจะทำความสะอาดยาก ใช้น้ำฉีดและแชมพูอาจไม่พอ ต้องออกแรงขัด จนทำร้ายสีรถซ้ำสอง
  2. น้ำฝนมีฤทธิ์กรดอ่อนๆ โดยเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่มีการสะสมมลพิษเจือปนอยู่ในอากาศเป็นจำนวนมาก ทำให้ฝนที่ตกลงมา มีฤทธิ์กรดอ่อนๆ พร้อมที่จะกัดกร่อนสีรถของคุณ น้ำฝนจึงเป็นสาเหตุหนึ่ง ที่ทำให้สีหมองเร็ว ไม่เงาเหมือนตอนพึ่งซื้อมาใหม่ๆ
  1. แสงแดดตัวร้าย รถที่ขับลุยฝนมาแล้วไปจอดตากแดด แสงแดดจะทำให้ฝนแห้งเป็นคราบฝังแน่นลงลึงถึงเนื้อสี เป็นการทำร้ายสีรถ
  2. รถจอดอยู่กับที่ขณะฝนตก เศษกิ่งไม้ใบไม้ที่ปลิวมากับฝนจะติดที่ตัวรถ เมื่อปล่อยให้เศษใบไม้เหล่านี้แห้งคารถจะทำให้รถเป็นรอยและล้างออกยาก
  1. เวลาฝนตก รถที่เปียกฝนจะเจอความชื้นมากขึ้น และหากต้องเจอความชื้นเหล่านีบ่อยครั้ง จะทำให้เกิดสนิมขึ้นมาเครื่องยนต์ที่มีส่วนประกอบของเหล็ก

และนี่คือ เหตุผลว่าทำไมต้องล้างรถหลังลุยฝน อาจทำให้คุณเปลี่ยนใจอยากล้างรถบ่อยขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังลุยฝนมาใหม่ๆ ไม่จำเป็นต้องเข้าร้านล้างรถทุกครั้ง คุณสามารถล้างรถเองได้ที่บ้าน เพียงใช้สายยางฉีดน้ำสะอาดไล่คราบน้ำฝนและฝุ่นออกไปก่อน 1 ครั้ง แล้วใช้ผ้าสะอาดลูบพร้อมฉีดน้ำไปด้วย

นอกจากสีรถที่ต้องดูแลแล้ว ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง ควรหมั่นตรวจเช็กรถยนต์ให้พร้อม ดีกว่าไปเจอรถเสียจอดอยู่กลางทาง แต่ของแบบนี้คาดเดาไม่ได้ พี่หมี TQM จึงขอแนะนำ ประกันรถยนต์มนุษย์เงินเดือน ที่มีบริการช่วยเหลือรถเสียฉุกเฉิน ช่วยให้คุณเดินทางไม่สะดุดในทุกเส้นทาง สนใจปรึกษาเรื่องประกันภัย โทร Hotline 1737 หรือ เช็คเบี้ยประกันรถยนต์คลิกที่นี่