มือใหม่ต้องรู้ เกียร์ธรรมดา VS เกียร์ออโต้ ต่างกันอย่างไร ?

0
5783

มือใหม่หัดขับรถยนต์ คงมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเลือกขับรถ ว่าจะขับเกียร์แบบไหนดี เพราะปัจจุบัน แม้รถยนต์เกียร์ออโต้จะเป็นที่นิยมมาก แต่รถยนต์เกียร์ธรรมดา ก็ยังมีให้ใช้งานกันอย่างแพร่หลาย ซึ่งถ้าจะพูดกันตามจริง คงต้องเลือกให้เหมาะสมตามการใช้งานมากกว่า บางคนที่ขอบขับรถกระบะก็ยังใช้เกียร์ธรรมดากันอยู่ และโดยมากคนที่ขับรถได้ทุกเกียร์มักจะเริ่มฝึกจากขับรถเกียร์ธรรมดาให้เป็นก่อน พอมาขับเกียร์ออโต้จะทำให้ขับได้ง่ายขึ้น

 

รถยนต์เกียร์ธรรมดา

 รถยนต์เกียร์ธรรมดา

รถเกียร์ประเภทนี้ ถ้าเรียกกันตามภาษาชาวบ้าน มักจะเรียกกันว่า เกียร์กระปุก แน่นอนว่า เกียร์ธรรมดา มีข้อดีกว่ารถเกียร์ออโต้ ตรงที่ราคาถูกกว่า ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นตัวล่างๆ ไม่ใช่ตัว Top การขับรถยนต์เกียร์ธรรมดา จะมีระบบที่ต้องใช้มากกว่า ที่สำคัญคือสติ เพราะจะต้องควบคุมรถด้วยการเหยียบคลัชก่อนเข้าเกียร์ และจะต้องทำการปรับเปลี่ยนเกียร์ไปตามจังหวะเร่ง มือใหม่หัดขับเกียร์ธรรมดาต้องขอบอกเลยว่า แรกๆ อาจจะขับลำบาก ทุลักทุเลนิดนึง ต้องตั้งสติให้มากๆ จังหวะผ่อนก่อนเข้าเกียร์ก็ต้องทำให้ดี ไม่งั้นเครื่องจะดับตั้งแต่ก่อนออกตัว แต่หากขับคล่อง เข้าที่แล้ว ประสาทสัมผัสจะสัมพันธ์กันไปเอง ทำให้ขับรถเกียร์ธรรมดาได้สนุกมากขึ้น เพราะจริงๆแล้ว ข้อดีของการใช้รถเกียร์ธรรมดา จะกินน้ำมันน้อยกว่าเกียร์ออโต้ ค่าบำรุงรักษา การเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเกียร์ การเปลี่ยนคลัช หรือการซ่อมบำรุงชิ้นส่วนต่างๆ ก็จะราคาเบากว่าด้วย อีกทั้งยังมีความทนทาน อายุการใช้งานยาวนานกว่า ที่สำคัญสมรรถนะในการขับขี่ดีกว่าการขับเกียร์ออโต้ เพราะมีการเชนเกียร์ได้เอง ควบคุมรอบเครื่องยนต์ได้เอง อีกอย่างการขับรถเกียร์ธรรมดา ช่วยให้สมองตื่นตัวขณะขับรถอีกด้วย เพราะต้องคอยเข้าเกียร์ เปลี่ยนเกียร์ เหยียบคลัช กดคันเร่ง เหยียบเบรก แต่ข้อเสียก็คือ เวลารถติดนานๆ ต้องคอยเหยียบคลัชไว้ ทำให้เมื่อยได้ ยิ่งเวลารถติดบนสะพานสูง หรือช่วงที่เป็นเนินคอสะพาน ถ้าไม่คุ้นชิน หรือฝีมือการขับยังไม่ดีพอ ก็มีสิทธิ์รถไหลไปโดนรถคันหลังได้ เพราะฉะนั้น ใครที่คิดอยากใช้เกียร์ธรรมดา มันก็ดีในระดับนึง แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องฝึกฝนจนชำนาญพอที่จะควบคุมได้ทุกสมรรถนะการขับขี่

 

รถยนต์เกียร์ออโต้

รถยนต์เกียร์ออโต้

เราได้เห็นข้อดีและข้อเสียของรถยนต์เกียร์ธรรมดากันไปแล้ว ต่อไปเรามาดูเกียร์ออโต้สุดฮิตกันบ้าง เนื่องจากการขับรถเกียร์ออโต้ มันเป็นอะไรที่สะดวกสบาย สำหรับคนที่ไม่ชอบความยุ่งยากซับซ้อน โดยเฉพาะสังคมในเมืองใหญ่ๆ รถเกียร์ออโต้จึงเป็นที่นิยม และเหมาะกับคนที่กำลังมองหารถใหม่ขับง่าย ส่วนใหญ่มักจะไปอยู่ในรุ่นที่สูงกว่า Standard แล้ว การขับรถเกียร์ออโต้ไม่มีอะไรยากเลย ถ้ามั่นใจจะขับแล้ว แค่เหยียบเบรก เข้าเกียร์ D ไม่ต้องเหยียบคลัชให้เมื่อย หมดกังวลเรื่องจังหวะผ่อนไม่ดี แล้วรถดับ เกียร์ออโต้ แค่เข้าเกียร์เดียวรถก็เดินหน้าได้แล้ว ควบคุมระบบการขับขี่ได้ง่ายกว่า จะถอยหลังก็แค่ไปที่เกียร์ R จอดรถก็หยุดที่ไว้ที่โหมด P ทำเกียร์ว่างก็อยู่ที่โหมด N แถมเวลารถติดบนสะพาน รถก็ไม่ไหลเลย ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนเกียร์ตลอดการเดินรถ แต่อย่างว่าด้วยความที่รถเกียร์ออโต้มันดูขับง่ายไปซะหมด ก็มาพร้อมกับค่าตัวที่สูงกว่า กินน้ำมันมากกว่า ค่าดูแลรักษาส่วนต่างๆก็จะจุกจิก และราคาสูงมากกว่าด้วย สำหรับสมรรถนะของเครื่องยนต์หากเป็นรุ่นใหม่ๆ ตัวท้อปตอนนี้ ทางบริษัทผู้ผลิตก็มักจะทำให้มีอัตราการเร่งที่ไหลลื่นดีขึ้น ไม่ต้องรอรอบนาน เหมือนรุ่นเก่าๆ ออกตัวได้ดีมากขึ้น แต่ข้อเสียก็จะกินผ้าเบรกมาก เพราะเวลารถติด เรามักจะเหยียบเบรกและเข้าตัว D ค้างไว้ ค่อยๆปล่อยๆเบรกๆ ทำให้ระบบเบรกถูกใช้งานหนักมากกว่าปกติ ทั้งนี้ การขับรถเกียร์ออโต้ ก็ช่วยเรื่องความง่าย สะดวกสบายเป็นหลักอยู่แล้ว ใครที่อยากขับรถได้เลย ไม่ต้องฝึกฝนนาน เกียร์ออโต้จะเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ได้มากที่สุด

หากคุณเป็นมือใหม่ที่อยากหัดขับรถ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง หาคนสอนยังไม่ได้ ปัจจุบันมีโรงเรียนสอนขับรถยนต์อยู่เป็นจำนวนมาก คอยให้บริการ สามารถสอนได้ทั้งรถเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโต้ ก็ลองมองหาที่ดีๆ และติดต่อลงเรียนดู เพราะเค้าจะสอนตั้งแต่เริ่มต้น จนขับเป็นได้อย่างมั่นใจ รวมไปถึงพาไปสอบใบขับขี่ด้วย ค่าบริการก็แล้วแต่โรงเรียนกำหนด

ทั้งหมดนี้เป็นการสรุปความแตกต่างระหว่างเกียร์ธรรมดา และเกียร์ออโต้ ให้เข้าใจง่ายที่สุด เพื่อคนที่กำลังมองหาว่าจะขับรถแบบไหน เอาไปใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจ เพราะสุดท้ายแล้ว ก่อนคุณจะเลือกรถยนต์สักคัน คงต้องใช้เวลาในการศึกษาอย่างละเอียด และทั้งสองแบบก็มีข้อดี ข้อเสียที่แตกต่างกันใหม่ ควรเลือกให้เหมาะสมกับความต้องการ และความจำเป็นในการใช้งานจะดีกว่า ลองตัดสินใจกันให้ดีแล้วกันนะ เพื่อความสุขการขับรถของคุณเอง.