ใช้รถมานาน ๆ การเลือกความคุ้มครองให้รถยนต์นั้นก็อาจจะมีข้อจำกัดหน่อย ๆ ครับ เพราะว่าอายุรถของเราก็เป็นปัจจัยหนึ่งในการที่บริษัทประกันจะพิจารณาเพื่อทำประกันรถยนต์นะครับ ยิ่งถ้ารถขับมานาน รถเก่า การทำประกันอาจจะต้องใช้เวลาค้นหาข้อมูลหลายวัน หรือเปิดเทียบหลายเว็บไซต์ แต่มาที่เว็บเราไม่ต้องกลัวครับ วันนี้ผมจะมาเล่าให้ฟังว่าประกันแต่ละชั้นโดยมาตรฐานจะรับรถอายุกี่ปี และถ้าอายุรถเกินกี่ปีควรจะทำประกันรถชั้นไหนดีครับ
รถอายุ 5 ปีขึ้นไปควรทำประกันชั้นไหนดี ?
เดี๋ยวผมจะทำให้เข้าใจแบบไม่ต้องไปเหนื่อยดูหลายที่ครับ สำหรับการซื้อประกันรถยนต์นั้น ถ้าเป็นประกันชั้น 1 แบบเลือกซ่อมศูนย์หรือซ่อมห้าง เหมาะกับรถอายุ 5-7 ปีครับ ส่วนประกันชั้น 1 แบบซ่อมอู่ จะเหมาะกับรถอายุ 10-12 ปี หากใครที่มีรถเก่าอยากทำประกันเอาไว้ไม่ซีเรียสเรื่องความคุ้มครองผมก็อยากแนะนำให้ขยับมาเป็นประกันชั้น 2+ หรือชั้น 3+ ได้ครับ เนื่องจากงบไม่แรงเท่าไหร่และได้ความคุ้มครองเอาไว้เพิ่มความอุ่นใจในการขับขี่ด้วย แต่ถ้ารถยนต์เก่ามาก ๆ แนะนำให้ลองขยับมาเป็นประกันรถยนต์ ชั้น 2 หรือชั้น 3 ได้นะครับ งบชิล ๆ แถมไม่จำกัดอายุรถด้วยนะรถยนต์จะอายุเท่าไหร่ก็ซื้อได้ทั้งหมดเลย ซึ่งผมนำตารางมาฝากให้เห็นภาพครับ
จากตารางจะเห็นได้นะครับว่า จะมีเฉพาะประกันชั้น 1 ที่ถูกจำกัดด้วยอายุรถ
แต่พอเป็นประกันชั้นอื่นๆ ทั้งประกันชั้น 2+ 3+ 2 จะถูกกำหนดด้วยราคารถแทนครับ
และสำหรับประกันชั้น 3 ที่รับผิดชอบเฉพาะทรัพย์สินบุคคลภายนอก ไม่ได้มีความรับผิดตัวรถเรา ก็ไม่ต้องสนใจเลยครับว่ารถเราอายุเท่าไหร่ ราคาประเมินแค่ไหน เพราะฉะนั้นรถคันไหนก็สามารถที่จะทำประกันชั้น 3 ได้ครับ
อีกข้อสำหรับประกันชั้น 1 ถ้าหากเป็นกรณีที่ทำต่อเนื่องหลายปีต่อกันยาว ๆ กับบริษัทประกันเดิม และ ประวัติดี ๆ ก็มีโอกาสที่จะทำประกันชั้น 1 ได้เกินอายุรถมาตรฐานข้างต้นนะครับ และสามารถเติมความรู้ได้ที่บทความประกันชั้น 1 รับรถอายุไม่เกินกี่ปี? เราเขียนอธิบายไว้ให้แล้วครับผม
รถ 7 ปี ทําประกันชั้นไหนดี / ทําประกันรถ 10 ปีขึ้นไปชั้นไหนดี
สำหรับรถอายุประมาณ 7-10 ปี ทุก ๆ คนน่าจะกำลังสับสนอยู่ว่า จะทำประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ได้อยู่ไหม หรือจะเปลี่ยนมาเป็นซ่อมอู่ดี หรือหนักกว่านั้นอยากประหยัดเปลี่ยนมาเป็น 2+ ดีไหม?
สำหรับทุก ๆ คนที่เคยประสบปัญหาว่ารถอายุ 7-10 ปี จะเลือกประกันชั้นไหนดี ผมแนะนำว่านอกจากจะดูที่อายุรถแล้ว ให้มองที่ความจำเป็นและปัจจัยอื่น ๆ ในการใช้ประกันเพิ่มเติมนะครับ อย่างเช่น
- งบประมาณในการซื้อประกัน
เนื่องจาก ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ / ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ / ประกันชั้น 2+ ราคาค่อนข้างจะแตกต่างกันมากๆนะครับ หลายพัน หรือ อาจจะต่างกันถึงหลักหมื่นบาท (ชั้น 1 ซ่อมศูนย์ กับ ชั้น 2+) เพราะฉะนั้น เราอาจจะเริ่มต้นจากเช็คราคาประกันแต่ละชั้นเพื่อมาพิจารณาดูก่อนว่างบประมาณที่เราจะใช้โดยไม่เดือดร้อน อยู่ที่เท่าไหร่ แล้วค่อยดูปัจจัยข้อต่อๆไปครับ
- ลักษณะการใช้รถ
ส่วนปัจจัยนี้ แต่ละคนก็จะมีลักษณะและความจำเป็นในการใช้รถที่แตกต่างกันไปใช่มั้ยครับ
บางคนใช้รถทุกวันเลย วิ่งไปกลับที่ทำงานระยะไกล ๆ ก็มีความเสียงมากหน่อยในการใช้รถ อาจจะต้องมองที่ประกันชั้น 1 ไว้เลย
เว้นเสียแต่บางคนใช้รถแค่วิ่งไปที่ทำงานใกล้ ๆ บ้าน 5 นาทีถึง หรือทุกวันนี้ก็ Work from Home ซะส่วนใหญ่ แบบนี้ก็อาจจะลองมองประกันชั้น 2+ เพื่อประหยัดเงินลงมาก็ได้ครับ
บางคนไม่มั่นใจที่จะซ่อมกับอู่ซ่อมรถยนต์ทั่วไป ไม่มีความรู้เรื่องอะไหล่รถยนต์มากมาย ต้องการมาตรฐานในการซ่อมระดับศูนย์เพื่อความมั่นใจ จะตัดสินใจทำซ่อมศูนย์ก็ไม่ผิดครับ อุ่นใจไม่ต้องกังวลมากเลย หรือถ้าใครยังไม่เข้าใจลองอ่านความแตกต่างระหว่างซ่อมอู่ vs ซ่อมศูนย์ ได้ครับ
- ส่วนลดประวัติดี
สำหรับคนที่ทำประกันต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ เกิน 3-4 ปี และไม่มีการชนที่เป็นฝ่ายผิดเลย ก็มีโอกาสจะได้รับส่วนลดประวัติดีเพิ่มเติมเพื่อลดค่าเบี้ย ตรงนี้ถ้าอยู่เราจะเปลี่ยนจากประกันชั้น 1 ไปทำประกันชั้น 2+ ก็ค่อนข้างน่าเสียดายนะครับ เพราะส่วนลดประวัติดีที่เราได้มาจะไม่สามารถนำไปเป็นส่วนลดของประกันชั้น 2+ ได้เลยครับ
แต่ในกรณีที่เปลี่ยนจากประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์ เป็น ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ ส่วนนี้จะยังได้รับส่วนลดนะครับ
- ความชำนาญในการขับรถ
สำหรับมือเก๋าที่ขับมานานๆ ขับมาเกิน 5-7 ปี ไม่เคยเกิดอุบัติเหตุแล้วเป็นฝ่ายผิดเลย และยังมีความมั่นใจว่าขับรถระวัง ไม่ได้เสี่ยงทำให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ก็ไม่จำเป็นจำต้องทำประกันชั้น 1 นะครับ อาจจะลดลงมาเหลือ 2+ หรือ 3+ ก็ยังได้ นอกจากจะเป็นการประหยัดเงินแล้ว ยังเป็นการซื้อความคุ้มครองที่พอดีกับความจำเป็นด้วยครับ
แต่ถ้าคุณไม่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง ขับชนเสา ครูดฟุตบาทบ่อยๆ อันนี้ก็แนะนำว่าอย่าทำ 2+ เลยครับ เพราะ 2+ จะคุ้มครองเพียงรถชนรถเท่านั้น คุณอาจจะเหมาะกับประกันชั้น 1 มากกว่าก็ได้นะครับ
สรุปว่ารถอายุ 7-10 ปียังสามารถทำประกันได้ทุกตัวเลือกนะครับไม่ว่าจะเป็น ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ , ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์, ประกันชั้น 2 , ประกันชั้น 3+, ประกันชั้น 2 , ประกันชั้น 3
แต่ที่ฮิตสุดที่หลาย ๆ คนชอบเลือกก็จะเป็น ประกันชั้น 1 ซ่อมอู่ หรือ ประกันชั้น 2+ นั่นเองครับ เพราะ ประกันชั้น 1 ซ่อมศูนย์สำหรับรถอายุ 7 ปีเริ่มจะหายากและบริษัทดัง ๆ ก็เริ่มไม่มีขายแล้วด้วยครับ
สำหรับรถอายุ 15 ปี หรือมากกว่านั้น กรณีที่ง่ายที่สุดที่ทุก ๆ คนจะทำประกันชั้น 1 ต่อได้ จะเป็นกรณีที่ทำต่อเนื่องกับบริษัทประกันเดิม และมีประวัติที่ดี ไม่ชนบ่อย นั่นเองครับ โดยถ้าเข้ากรณีนี้ก็อาจจะทำประกันชั้น 1 ต่อไปได้เรื่อย ๆ ยาวถึง 20 กว่าปีเลยทีเดียวครับ
แต่นอกเหนือจากกรณีที่ทำต่อเนื่อง อาจจะมีบางบริษัทที่ยังรับลูกค้าใหม่ แต่อาจจะน้อยมากๆและไม่ใช่บริษัทชื่อดังครับ
ส่วนสำหรับประกันชั้น 2+ 3+ และ ชั้น 2 ทั้งหมดนี้จะเน้นดูที่มูลค่ารถหรือราคารถ ณ ปัจจุบันแทนครับ อย่างที่ตารางด้านบนบอกไว้ โดยหลายๆบริษัทประกันจะทำแผนประกันชั้น 2+ ชั้น 3+ และ ชั้น 2 โดยให้ทุนประกันรถขั้นต่ำอยู่ที่ 100,000 บาท โดยทุนประกันก็คือวงเงินสูงสุดที่บริษัทประกันจะจ่ายคืนให้เราเมื่อรถเกิดเสียหาย หรือ ตัวแทนมูลค่าของรถเรานั่นเองครับ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ถ้าราคารถของเรา ณ ปัจจุบันไม่ถึง 100,000 บาท บริษัทประกันก็จะไม่สามารถรับทำประกันชั้น 2+ ชั้น 3+ และ ชั้น 2 ให้เราได้นั่นเองครับ
ประกันชั้น 3 รถอายุเท่าไหร่ทำได้บ้าง?
และสำหรับใครที่กำลังปวดหัวว่า ประกันชั้น 1 ก็ทำไม่ได้เพราะอายุรถไม่ถึง ประกันชั้น 2+ ชั้น 3+ และ ชั้น 2 ก็ทำไม่ได้ ราคารถไม่ถึง 100,000 บาทอีก
เพราะเนื่องจากความคุ้มครองของประกันชั้น 3 จะไม่มีความคุ้มครองรถของเราอยู่เลยครับ ทำให้ไม่ต้องกำหนดอายุรถ หรือมูลค่ารถเพื่อทำประกัน โดยประกันชั้น 3 จะคุ้มครองแค่ทรัพย์สินบุคคลภายนอก(รถคนอื่นหรือทรัพย์สินคนอื่น) และ คุ้มครองคน นั่นเองครับ ประกันชั้น 3 จึงเป็นประกันที่รถทุกคันสามารถทำได้และราคาถูกมากที่สุดนั่นเองครับ
ทั้งหมดเป็นรายละเอียดให้คนที่มีรถเก่าตัดสินใจก่อนทำประกันภัยรถยนต์ครับ หรือถ้าเลือกไม่ได้ และก็ไม่รู้จะเลือกยังไง ให้ Priceza Money ดูแลได้ครับ เพราะเราเป็นเว็บรวมทุกความคุ้มครองประกันภัยรถยนต์แบบ เทียบครบจบที่เรา ไม่ต้องเข้าหลายเว็บ รวมแผนจากบริษัทประกันชั้นนำ และโบรกเกอร์ชื่อดังทั่วประเทศ ไว้ให้คุณในที่เดียว สบาย ข้อมูลครบ ติดต่อง่าย ไม่ต้องกลัวว่าจะบังคับขาย จะเช็กเบี้ยประกันรถยนต์เอง หรือจะกรอกข้อมูลให้เราติดต่อกลับได้ครับ ยินดีให้บริการ