ในปัจจุบันหลายๆคนเริ่มหันมาสนใจรถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ ev กันมากขึ้น และอีกอย่างที่เป็นของคู่กับรถยนต์มาตลอดนั่นก็คือ “ประกันรถยนต์” นั่นเอง
เวลาซื้อรถแล้ว นอกจากจะต้องคำนวณ ราคารถ ค่าน้ำมัน ค่าไฟฟ้า เราควรที่จะต้องมาดู “ราคาประกันรถยนต์” ควบคู่ไปด้วย เนื่องจากรถบางรุ่นก็มีราคาประกันรถยนต์ที่แพงมากกว่ารถบางรุ่นนะครับ ซึ่งเรารู้กันดีว่า รถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ ev เมื่อเทียบกับ รถที่เติมน้ำมันทั่วๆไปแล้ว ทั้ง ค่าเช็คระยะ และ ค่าไฟฟ้าต่อกิโล ค่อนข้างจะถูกกว่าเป็นอย่างมาก แล้วประกันรถยนต์ล่ะ ราคาจะต่างกันไหม? วันนี้มาเล่าให้ฟังครับ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV แพง?
ก่อนอื่นประเด็นที่หลายๆคนถามเข้ามาเยอะก็น่าจะเป็นเรื่อง
“ประกันรถ EV แพงกว่าประกันรถน้ำมันใช่ไหม?”
คำตอบคือ แพงกว่าจริงครับ โดยมีการยืนยันจากบอร์ดบริหารของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่บริษัทนึงเมื่อช่วงต้นปี 2021 ด้วยครับว่า
“เนื่องจากปริมาณการใช้รถ EV ในปัจจุบันมีจำนวนไม่มาก และสถิติความเสียหายของการใช้รถ EV มีจำนวนน้อย ส่งผลให้เบี้ยประกันภัยอาจไม่สามารถสะท้อนความเสี่ยงที่แท้จริงได้ อย่างไรก็ตาม บริษัท ได้มีการกำหนดเบี้ยประกันภัยรถ EV ในอัตราที่สูงกว่าเบี้ยประกันภัยรถยนต์ทั่วไปประมาณ 20% เนื่องจากการซ่อมรถ EV มีค่าแรงและค่าอะไหล่ที่สูงกว่ารถยนต์ทั่วไปเนื่องจากเป็นการซ่อมผ่านศูนย์หลักเท่านั้น”
จะเห็นว่าขนาดบริษัทประกันยังยืนยันเองเลยว่าประกันรถ EV แพงกว่า รถน้ำมัน แน่ๆ ก็ค่อนข้างมั่นใจได้เลยครับว่าน่าจะแพงกว่าจริงแน่นอน
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า EV เปรียบเทียบกับ ประกันรถยนต์น้ำมัน
โดยผมได้รวบรวมเบี้ยประกันโดยเปรียบเทียบเบี้ยประกันของรถใช้น้ำมัน กับ เบี้ยประกันรถ EV เทียบกันให้ดูประกอบคร่าวๆครับ
โดยรุ่นรถที่เอามาเทียบกัน จะเอารถยนต์น้ำมันที่ “ทุนประกัน” ใกล้เคียงกับ รถยนต์ไฟฟ้า มาเทียบกันให้ดูนะครับ เนื่องจากว่า “ทุนประกัน” เป็นปัจจัยหลักๆที่เอามาคำนวณเบี้ยประกันนั่นเองครับ
โดยพอมาเทียบกันจริงๆ เบี้ยก็ค่อนข้างแพงกว่าจริงนะครับ ซึ่งบางรุ่น ก็แพงกว่าถึงเท่าตัวเลย
สงสัยกันมั้ยครับว่าทำไมราคาถึงแพงต่างกันได้ขนาดนี้ ต้องบอกว่ามีหลากหลายปัจจัยครับที่ทำให้ ประกันรถยนต์ EV ราคาสูง
ตามเนื้อหาด้านล่างนี้ครับ
ปัจจัยที่ทำให้ประกันรถ EV (ยัง)แพงอยู่
จริงๆปัจจัยที่ทำให้ประกันรถยนต์ EV แพงกว่ารถน้ำมันเนี่ย ถ้าเราอ่านจากประกาศของบอร์ดบริหารของบริษัทประกันยักษ์ใหญ่ที่พูดถึงประกันรถ EV ก็เหมือนจะมีบอกอยู่แล้วคร่าวๆครับ
และนอกจากนี้ผมก็ยังได้สอบถามจากผู้เชี่ยวชาญทางด้านประกันรถยนต์ ไม่ว่าจะเป็น โบรคเกอร์ บริษัทประกัน เพิ่มเติม ว่าทำไม ประกันรถยนต์ EV ถึงแพงกว่ารถน้ำมัน จึงสรุปปัจจัยได้ประมาณนี้ครับ
- ศูนย์บริการที่ยังไม่มีในไทย
- ศูนย์บริการที่ยังไม่มีในไทย
ข้อนี้เป็นข้อที่ค่อนข้างสำคัญ เห็นได้ชัดมาก และเป็นส่วนใหญ่ที่ส่งผลกับราคาของประกันรถยนต์ EV เลยครับ เนื่องจาก การที่ยี่ห้อรถไหนที่ยังไม่มีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในไทย จะส่งผลทำให้ การซ่อม หรือ การเบิกอะไหล่ค่อนข้างทำได้ยาก ใช้เวลานาน และ ลำบากครับ ทำให้เวลาบริษัทประกันจะซ่อมรถให้เราทีนึง อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า การซ่อมให้รถที่มีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในไทยครับ
โดยจากตารางที่ผมนำมาให้ดู ลองเทียบกันระหว่างยี่ห้อรถที่มีศูนย์บริการในไทยอย่าง GWM (Ora good cat) และ MG EV เปรียบเทียบกับ Porsche หรือ Tesla ที่ไม่มีศูนย์บริการอย่างเป็นทางการในไทย จะเห็นได้ชัดเลยครับ ว่าเบี้ยจะต่างกันค่อนข้างมาก
โดยหลักการนี้นอกจากทำให้ประกันรถยนต์ EV แพงแล้ว ยังเป็นหลักการเดียวกับที่ทำให้รถยุโรป ซุปเปอร์คาร์ เช่น เฟอร์รารี่ แลมโบกินี่ ประกันก็แพงมากๆเช่นกันครับ
- ค่าแรงและค่าอะไหล่ (ต้องซ่อมศูนย์เท่านั้น)
อีกข้อที่เหมือนจะสัมพันธ์กับข้อแรก ก็คือ ค่าแรงและค่าอะไหล่นั่นเองครับ เนื่องจากว่า อู่ในไทยที่รับซ่อมรถ EV ในปัจจุบัน มีจำนวนยังไม่เยอะ ยังไม่ได้มีมาตรฐานอะไรรองรับได้เหมือนรถยนต์น้ำมันทั่วๆไป และ อะไหล่ของรถยนต์ EV ก็ไม่ได้หาง่ายๆตามเซียงกงเหมือของรถยนต์น้ำมัน
ตอนนี้แผนประกันรถยนต์ EV จึงมีแต่แบบซ่อมศูนย์ออกมาให้ทำนั่นเองครับ ซึ่งทุกๆคนน่าจะรู้อยู่แล้วว่า การทำประกันซ่อมศูนย์ แพงกว่า ซ่อมอู่แน่ๆ นี่จึงเป็นอีกเหตุผลที่ทำให้ราคาประกันรถยนต์ EV ค่อนข้างจะสูงนั่นเองครับ
- สถิติการใช้รถ EV ยังน้อย คนใช้ยังน้อย
อีกเหตุผลที่สำคัญก็คือ เรื่องการคำนวณความเสี่ยงครับ เพราะผู้ใช้รถ EV ในประเทศไทยยังไม่ได้มีจำนวนเยอะถึงขนาดที่สามารถคำนวณความเสี่ยงได้แม่นยำ
การทำสถิติอุบัติเหตุ การประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้นต่างๆเมื่อรถยนต์ EV เกิดอุบัติเหตุ จึงยังไม่แน่นอน ทำให้บริษัทประกันต้องตั้งราคา(อาจจะ)สูงกว่าความเป็นจริง เพื่อทดแทนความเสี่ยงที่ยังไม่แน่นอนส่วนนั้นนั่นเองครับ
- บริษัทประกันที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังน้อย
ปัจจุบันเท่าที่ทราบ บริษัทประกันที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า มีอยู่ประมาณ 5-6 บริษัทเท่านั้นครับ เมื่อเทียบกับบริษัทประกันที่รับประกันรถยนต์น้ำมัน ยังถือว่าน้อยมากๆครับ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้บริษัทประกันที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า อาจจะตั้งราคาที่สูงได้อยู่ เพราะว่าในตลาดยังมีคู่แข่งไม่ได้มากนัก และบริษัทที่ออกมารับประกันรถยนต์ไฟฟ้าตอนนี้ก็มีแต่บริษัทระดับ TOP ที่ขึ้นชื่อเรื่องราคาสูงอยู่แล้ว จึงเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ราคาประกันรถยนต์ไฟฟ้าสูงนั่นเองครับ
ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะถูกลงไหมในอนาคต?
คำถามที่ทุกคนน่าจะถามในใจก็คือ แล้วประกันรถไฟฟ้า EV จะถูกลงได้ไหมในอนาคต?
แน่นอนครับว่าถ้าดูจากแต่ละปัจจัยที่ผมเล่าไปด้านบน จริงๆแล้วขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้นครับที่ประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) จะถูกลงจนเท่าๆกับประกันรถยนต์น้ำมันทั่วไป
- ศูนย์บริการที่ยังไม่มีในไทย พอเวลาผ่านไปซักพัก ผู้ใช้รถ EV มีมากขึ้น บริษัทรถ EV ต่างๆก็จะค่อยๆเข้ามาทำตลาดอย่างเป็นทางการในไทย (ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดก็คือ GWM) พอมีศูนย์บริการเพิ่มขึ้นแล้ว บางบริษัทยังมีข่าวว่าจะตั้งโรงงานในไทยอีก นั่นก็จะทำให้พวกชิ้นส่วนอะไหล่ต่างๆสามารถหาได้ง่ายขึ้น และราคาถูกลง ก็จะส่งผลให้ประกันรถยนต์ EV ถูกลงอีกอย่างแน่นอนครับ
- ค่าแรงและค่าอะไหล่ (ต้องซ่อมศูนย์เท่านั้น) เช่นกันครับด้วยความที่ตอนนี้ผู้ใช้รถยนต์ EV ยังน้อยอยู่ ช่างที่ซ่อมเป็นก็ยังไม่เยอะ ยังไม่มีความเชี่ยวชาญมาก อะไหล่ก็หายาก เลยต้องซ่อมแต่ศูนย์อย่างเดียวแต่ในอนาคตเมื่อความรู้ความเข้าใจในรถ EV เยอะขึ้นอีก แน่นอนว่า ก็จะมีอู่ที่รับซ่อมรถ EV เยอะขึ้น อะไหล่ก็น่าจะหาได้ง่ายขึ้นเช่นกัน ถึงเวลานั้นบริษัทประกันก็จะออกแผนซ่อมอู่ออกมา ซึ่งจะมีราคาถูกกว่าแผนประกันซ่อมศูนย์นั่นเองครับ
- สถิติการใช้รถ EV ยังน้อย แน่นอนสำหรับปีนี้เทรนด์ของการใช้รถ EV เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คนสนใจมากขึ้น ยิ่งในปีนี้ที่น้ำมันก็แพงขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน รถ EV ที่ได้รับการสนับสนุนจากนโยบายรัฐบาลให้ราคาถูกลง ด้วยปัจจัยหลายๆอย่าง ผมเชื่อว่าสุดท้ายรถยนต์ EV จะเข้ามาเป็นกระแสหลักในประเทศไทยไม่ช้าก็เร็วแน่นอน และเมื่อมีคนใช้เยอะขึ้น การเก็บสถิติการใช้รถก็จะแม่นยำขึ้นเรื่อยๆ เบี้ยประกันก็จะถูกปรับลงมาให้เหมาะสมกับความเสี่ยงที่ชัดเจนขึ้นแน่นอนครับ
- บริษัทประกันที่รับประกันรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ยังน้อย เมื่อมีคนใช้มากขึ้น ความต้องการซื้อประกันรถยนต์ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น ก็ย่อมทำให้จำนวนผู้ขายเพิ่มขึ้นเช่นกันครับ รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มมีผู้สนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ผมค่อนข้างมั่นใจว่า ไม่ช้าก็เร็วจะต้องมีบริษัทประกันรถยนต์ที่ออกมารับประกันรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นแน่นอนครับ
สำหรับใครที่กำลังตัดสินใจอยู่ว่าจะซื้อรถ EV ดีไหม มีข้อกังวลเรื่องประกันรถยนต์ EV แพง ก็น่าจะคลายกังวลกันไม่มากก็น้อยกันแล้วนะครับ ก็อยากฝากให้ทุกๆคนลองพิจารณาทุกๆตัวเลือกให้ดี ทางด้านผู้เชี่ยวชาญด้านประกันอย่างเรา ก็ทำได้เพียงแค่บอกเล่ามุมมองของประกันรถยนต์ กับ รถยนต์ EV ว่าแนวโน้มจะไปทางไหน โดยหวังว่าจะมีประโยชน์กับการตัดสินใจของทุกคนนะครับ
เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์
เปรียบเทียบประกันรถยนต์
- ราคา
- ความคุ้มครอง
- เงื่อนไข
- การผ่อน