ข้อควรรู้! ก่อนตัดสินใจต่อประกันรถยนต์ เพื่อให้ได้ราคาคุ้มค่า

ประกันรถยนต์ใกล้จะหมด เรามีทางเลือกอะไรบ้าง? ก่อนที่จะตัดสินใจต่อประกันรถยนต์ในปีต่อไป

ระหว่าง “ต่อเจ้าเดิม” กับ “หาที่ใหม่” ควรเลือกอะไร ทำยังไงถึงจะได้ราคาที่คุ้มค่าที่สุด? วันนี้จะมาเล่าให้ฟังครับ

ต่อประกันรถยนต์ เลือกบริษัทเดิมหรือบริษัทใหม่ดี ?
ตอบ.
เลือกบริษัทเดิม ถ้าหากได้ส่วนลดประวัติดี หรือพึงพอใจในบริการอยู่แล้ว
เลือกบริษัทใหม่ ถ้าหากมีเคลม กรณีชนแบบเป็นฝ่ายผิด หรือ กรณีชนแบบไม่มีคู่กรณี (ชนฟุตบาท ชนกำแพง) *ยกเว้นได้ส่วนลดประวัติดี 30-50% อยู่แล้ว อาจลองเปรียบเทียบราคากับเจ้าอื่นก่อนตัดสินใจ

เลือกต่อประกันรถยนต์กับ ‘บริษัทเดิม’ หรือ ‘หาบริษัทใหม่ดี

คำถามแรกที่ควรจะต้องตอบให้ได้ก่อน นั่นคือ เราต้องการที่จะต่อประกันกับบริษัทเดิม หรือ เปลี่ยนเป็นบริษัทใหม่ดี?

พิจารณา “การเคลม” ก่อนต่อประกันรถยนต์

ซึ่งหลักการง่ายๆในการตัดสินใจเลือก นั่นก็คือ

ปีที่ผ่านมาเรามีการแจ้งเคลมประกันรถยนต์ โดยที่เป็นฝ่ายผิด หรือ ชนแบบไม่มีคู่กรณี หรือเปล่า”

เพราะส่วนนี้จะเป็นส่วนสำคัญที่ กำหนดเบี้ยประกันรถยนต์ในปีต่อไป ถ้าหากเรามีการเคลมหรือการแจ้งให้ประกันรถยนต์ซ่อมรถให้เรา โดยที่เราเป็นฝ่ายผิดเอง เช่น เราขับรถไปชนคนอื่น หรือ เราขับรถชนกำแพง ฟุตบาท ไม่มีคู่กรณี ในปีต่อมาก็มีโอกาสสูงมากครับที่ประกันรถยนต์บริษัทเดิมของเราจะ ขึ้นราคาเบี้ยประกันรถยนต์ หรือ อย่างต่ำคือ ไม่มีส่วนลดใดๆ ให้เรา (จ่ายเบี้ยเท่าเดิม แต่ทุนประกันลดลง)

ถ้าหากเป็นกรณีตามข้างต้นนี้ ก็อาจจะต้องพิจารณา เปรียบเทียบราคาประกัน ของบริษัทประกันรถยนต์อื่นๆไว้บ้างครับ เพื่อประโยชน์ของเรา ที่จะได้เบี้ยประกันที่คุ้มค่าคุ้มราคาที่สุด ถ้าไม่รู้จะเปรียบเทียบที่ไหน ลองเข้า Priceza Money ดูนะครับ มีให้เลือกเพียบ

*ยกเว้นกรณี ที่เรามีประวัติดีมาหลายปีจนมีส่วนลดสูงมากๆ เช่น 30-50% (ไม่มีชนเลยในระยะเวลา 3-5 ปี)

ถ้าหากปีนั้นๆเรามีการเคลมโดยที่เป็นฝ่ายผิด หรือชนแบบไม่มีคู่กรณี อาจจะแค่หักส่วนลดลงมาเหลือ 10-40% เท่านั้นครับ ถ้าเป็นกรณีนี้ อาจจะต้องเปรียบเทียบราคากับเจ้าอื่นๆอีกทีนึง เพราะต่อให้โดนหักส่วนลดลงมาแล้ว ราคาก็อาจจะยังถูกกว่าเจ้าอื่นๆอยู่ดีนะครับ อาจจะไม่คุ้มกับการเปลี่ยนบริษัทโดยทิ้งส่วนลดเดิมที่สะสมอยู่ไป

ต่อประกันรถยนต์

พิจารณา “บริษัทประกัน” ก่อนต่อประกันรถยนต์

และอีกข้อที่เราควรนำมาพิจารณาในการเลือกว่าจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนบริษัทประกันรถยนต์ในปีต่อประกัน นั่นก็คือ

“บริการของบริษัทประกันครับ”

โดยควรจะพิจารณาทั้งบริษัทเดิมและบริษัทใหม่เลย Priceza Money ย้ำอยู่เสมอว่า ราคาของเบี้ยประกันไม่ใช่สิ่งเดียวที่จะนำมาพิจารณาในการเลือกทำประกันหรือต่อประกัน เรื่องบริการก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆเช่นกันครับ

โดยถ้าบริษัทที่ทุกๆคนทำอยู่ มีบริการที่ดีมากๆอยู่แล้ว และ บริษัทใหม่ที่ราคาถูกกว่า ทุกๆคนได้ลองศึกษาแล้ว มีชื่อเสียงไม่ดีมากนักในเรื่องของการบริการ ก็อาจจะได้ไม่คุ้มเสียในการที่เราจะได้ราคาประกันรถยนต์ที่ถูกลงนะครับ ยังไงก็ตามอยากให้คำนึงถึงข้อนี้ด้วย ก่อนที่จะตัดสินใจเลือกเปลี่ยน หรือ ไม่เปลี่ยนประกันรถยนต์

เรื่อง บริษัทประกันรถยนต์ ถ้าไม่รู้จะศึกษาจากไหนดีแนะนำให้ลองอ่านบทความ 2 บทนี้ดูครับ อาจจะได้คำตอบที่ชัดเจนมากขึ้น

ต่อประกันรถยนต์ผ่านช่องทางไหนดี

เมื่อเราเลือกได้แล้วว่าจะต่อประกันรถกับบริษัทไหนดี อีกทางเลือกที่เราจะต้องเลือกก็คือ “ช่องทางในการต่อประกันรถยนต์” ครับ

โดยทุกวันนี้เราสามารถที่จะเลือกซื้อประกันรถยนต์ หรือ ต่อประกันรถยนต์ได้มากมายหลากหลายช่องทาง เลือกโปรโมชั่นที่ชอบ เลือกการผ่อนที่สะดวก ได้มากมาย

โดยไม่ว่าเราจะตัดสินใจต่อประกันรถยนต์กับบริษัทเดิม หรือบริษัทใหม่ เราสามารถที่จะเลือกซื้อประกันกับผู้ขายที่ไหนก็ได้นะครับ ไม่ได้จำเป็นจะต้องซื้อประกันกับเจ้าที่เราเคยซื้อมาปีที่แล้ว ถ้าหากที่อื่นมีโปรโมชั่นมากกว่า บริการดีกว่า หรือลดให้มากกว่า ก็อาจจะเลือกพิจารณาซื้อจากผู้ขายเจ้าอื่นๆได้เช่นกันครับ

ต่อประกันรถยนต์

ช่องทางการต่อประกันรถมากมายหลากหลายที่มีให้เลือก ก็ประกอบไปด้วย

1. ต่อประกันรถผ่านโบรคเกอร์ หรือ นายหน้าขายประกัน

หนึ่งในช่องทางยอดนิยม ก็คือการต่อประกันผ่านนายหน้าขายประกัน หรือที่เรารู้จักกันอีกชื่อนึงว่า “โบรคเกอร์”

โดย ข้อดีของการต่อประกันกับโบรคเกอร์ ก็คือมีบริษัทประกันที่หลากหลายให้เลือก คุยที่เดียวได้ข้อมูลราคาครบทุกบริษัทเลย อีกทั้งยังมีโปรโมชั่นมากมายจากโบรคเกอร์ ที่ ลด แลก แจก แถม เพียบ ที่เราอาจจะหาไม่ได้จากช่องทางอื่นๆ

เพราะเนื่องจากโบรคเกอร์มีสัดส่วนของกำไรที่มากกว่าช่องทางการขายอื่นๆ จึงทำให้จัดส่วนลด หรือโปรโมชั่นได้สูงกว่าช่องทางอื่นๆเช่นกันครับ ซึ่งแต่ละโบรคเกอร์ก็จะมีโปรโมชั่นแตกต่างกันไป เช่น ผ่อนเงินสด, ลดราคาพิเศษ หรือมีบริการช่วยเหลือฉุกเฉินแถมให้

ถ้าใครอยากเปรียบเทียบโปรโมชั่นต่างๆของแต่ละโบรคเกอร์ ลองอ่านต่อที่บทความนี้ได้นะครับ

หรือถ้าอยากเข้าไปเปรียบเทียบประกันของรุ่นรถตัวเอง เข้าไปที่ Priceza Money ได้เลยเช่นกันคร้าบ

2. ต่อประกันรถผ่านดีลเลอร์รถ หรือ ศูนย์ที่เราออกรถ

อีกช่องทางที่ทุกๆคนคุ้นเคย ก็คือการต่อประกันผ่าน “ศูนย์ที่เราออกรถ” มานั่นเองครับ

ในปีแรกที่เราซื้อรถส่วนใหญ่จะมีประกันแถมมาให้เลยจากศูนย์ และในปีต่อมาศูนย์ที่เราออกรถก็จะโทรมาถามเราอยู่แล้วว่าจะต่อประกันรถเลยมั้ย? (อาจจะมีบ้างที่ลืมโทรนะครับบอกไว้ก่อน)

ซึ่งข้อดีก็คือการต่อกับศูนย์ที่เราออกรถ ก็จะค่อนข้างสะดวกในการทำเรื่อง ไม่ต้องส่งข้อมูลขอเราให้ใหม่ เพราะทางศูนย์มีอยู่ครบถ้วนแล้ว อีกอย่างถ้าหากปีที่แล้วเราไม่ได้มีเคลมแบบเป็นฝ่ายผิด หรือไม่มีคู่กรณี การต่อเจ้าเดิมก็อาจจะได้ราคาที่ถูกลงอีกด้วยนะครับ

แต่ในเรื่องราคาหรือโปรโมชั่น จากที่ผมศึกษามาและมีประสบการณ์ตรงด้วยตัวเอง ทางศูนย์ที่เราออกรถอาจจะไม่ได้มีโปรโมชั่นหรือลดราคาได้มากเท่าช่องทางอื่นๆนะครับ จึงแนะนำให้พิจารณาช่องทางอื่นๆประกอบไปด้วยครับ

3. ต่อประกันรถผ่านตัวแทนของประกันรถยนต์

ช่องทางการต่อประกันผ่าน “ตัวแทนประกันรถยนต์” ก็เป็นอีกช่องทางที่หลายๆคนน่าจะคุ้นเคยกันมาอย่างยาวนาน

โดยจะเป็นการที่เราต่อประกันรถกับคนรู้จักที่เป็นตัวแทนของบริษัทประกันรถยนต์นั่นเองครับ

โดยช่องทางนี้นั้นข้อดีก็คือ หากได้ตัวแทนที่ดีมาช่วยต่อประกันให้ ก็อาจจะเหมือนได้เพื่อนคู่คิด หรือที่ปรึกษาทางด้านประกันรถยนต์ เวลาเกิดอุบัติเหตุ หรือเวลามีปัญหาได้เลยล่ะครับ เพราะตัวแทนประกันรถยนต์จะมีข้อแตกต่างจากโบรคเกอร์หรือบริษัทใหญ่ๆตรงที่จะมีการดูแลลูกค้าได้ใกล้ชิดกว่า (ย้ำอีกครั้งว่าเฉพาะตัวแทนประกันรถยนต์ดีๆนะครับ) สามารถแนะนำและอยู่เคียงข้างเราเวลาเกิดเหตุไม่ต้องไปเปิด google ว่าต้องทำยังไงดี แค่โทรหาตัวแทนประกันรถยนต์เอา ก็อาจจะได้คำตอบที่ดีกว่า และชัดเจนกว่าในทันที

ซึ่งถ้าหากตัดสินใจจะทำผ่านช่องทางตัวแทนประกันภัยรถยนต์ สิ่งที่ต้องคำนึงถึงก็คือควรจะหาคนที่ไว้ใจได้และเรารู้จักเป็นอย่างดีพอสมควรมาดูแลเรานั่นเองครับ

4. ต่อประกันรถผ่านบริษัทประกันรถยนต์โดยตรง

ก่อนหน้านี้การต่อประกันรถยนต์จะจำกัดอยู่แค่การต่อประกันผ่านนายหน้าหรือตัวแทนเท่านั้น (ข้อ 1-3)

แต่ในยุคนี้หลายๆ “บริษัทประกันรถยนต์” เริ่มลุกขึ้นมาขายประกันรถยนต์ด้วยตัวเองแล้ว

ซึ่งก็เป็นประโยชน์สำหรับผู้ซื้ออย่างเราๆเพิ่มขึ้นอีก ในแง่ของการมีทางเลือกที่หลากหลายมากขึ้น โดยการซื้อตรงกับบริษัทประกันรถยนต์ ก็มีข้อดีตรงที่ อาจจะได้ราคาที่ถูกลงกว่าเดิม(ในบางบริษัท) และ ได้ประกันรถแบบใหม่ๆ เช่น ประกันเติมไมล์ หรือ ประกันเปิด-ปิด ที่จะต้องซื้อผ่านบริษัทประกันโดยตรงเท่านั้นถึงจะซื้อได้ เพราะในปัจจุบันบางบริษัทก็ยังตัดสินใจพึ่งพาการขายผ่านนายหน้าและตัวแทนอยู่ มีเพียงแค่บางบริษัทเท่านั้นที่ออกมาขายตรงกับลูกค้าเอง อาทิเช่น ทิพยประกันภัย, ไทยวิวัฒน์ประกันภัย, รู้ใจประกันภัย และ ไดเรคเอเชียประกันภัย 

ยังไงก็ตามถ้าหากยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเลือกช่องทางไหน ก็แนะนำให้มาเปรียบเทียบกับเว็บที่เป็นตัวกลางการเปรียบเทียบอย่าง Priceza Money รวบรวมผู้ขายที่หลากหลาย และ รวบรวมโปรโมชั่นไว้ให้เปรียบเทียบเยอะแยะมากมายครับ ฝากไว้ในอ้อมอกอ้อมใจพ่อแม่พี่น้องด้วยนะครับ

สุดท้ายนี้ หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์บ้าง ช่วยในการตัดสินใจได้บ้าง ไม่มากก็น้อยครับ ขอบคุณครับ

Share:

Facebook