วิกฤติประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” กลายเป็น “เจอ จ่าย เจ๊ง” ทำบริษัทประกันปิดตัวไป 4 บริษัท พร้อมกับอีก 1 บริษัทที่กำลังยื่นฟื้นฟูกิจการ หลายๆคนก็คงเริ่มเสียความเชื่อมั่นในธุรกิจประกันภัยกันไม่น้อยเลย
แต่ยังไงก็ตาม เราก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่าประกันภัยก็ยังเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตของเราทุกวันนี้อยู่ อย่างเช่น ประกันรถยนต์ที่ถ้าไม่มีประกันแล้วขับไปชนรถแพงๆเข้าทีนึง กระเป๋าฉีกแน่ๆ
เพราะฉะนั้นวันนี้ครับ ผมจะมาพาทุกคนไปส่องงบการเงินของบริษัทประกันรถยนต์ ที่ยังคงเปิดกิจการอยู่หลังช่วงวิกฤติโควิด ว่าหลังจากนี้เราจะเชื่อมั่นบริษัทไหนได้อีกบ้าง เราจะตัดสินใจทำบริษัทประกันไหนดี? ประกันรถยนต์ที่ไหนดี? เผื่อหลายๆคนที่กำลังจะต่อประกันรถยนต์หรือทำประกันรถยนต์ในปี 2565 ครับ
ตัววัดผลที่นักลงทุนระดับโลกก็เลือกใช้ “งบกระแสเงินสด”
โดยวันนี้ผมก็อาจจะไม่ได้เอามาทุกบริษัทให้ทุกคนดูนะครับ เพราะบริษัทประกันภัยที่ประกอบกิจการอยู่ก็มีเกือบ 100 บริษัท โดยจะเอามาแค่บริษัทที่มีชื่อคุ้นหูกับทุกคน มาเล่าให้ฟังแล้วกันนะครับ
โดยเราจะใช้ตัววัดความแข็งแกร่งทางด้านการเงินที่นักลงทุนในตลาดหุ้นหลายๆคนก็เลือกที่จะดูกัน นั่นก็คือ “งบกระแสเงินสด” หรือ เงินสดที่แต่ละบริษัทประกันมีสะสมอยู่ในกระเป๋านั่นเองครับ แบบว่าถ้าหากเกิดอะไรขึ้นก็พร้อมที่จะควักตรงนี้มาจ่ายเป็นเงินฉุกเฉินได้เลย!
โดยงบกระแสเงินสดบอกเราได้หลายอย่างครับ ทั้งวิธีการบริหารเงินของบริษัทประกัน และความมั่นคงของบริษัท จริงๆแล้วถ้าเป็นนักลงทุนมืออาชีพ ก็จะดูลึกๆลงไปได้อีกหลายอย่าง แต่อย่างเราๆก็ดูแค่งบกระแสเงินสดโดยรวมแล้วกันครับ จะได้ไม่ปวดหัวกันมาก ทุกคนเข้าถึงได้ด้วย
ส่องความแข็งแกร่งด้านการเงิน บริษัทไหนเงินเยอะ !!
โดยผมได้ทำตารางเรียงลำดับ งบกระแสเงินสดล่าสุดของแต่ละบริษัทประจำปี 2565 มาให้ทุกคนดูกันง่ายๆแล้วครับ ไปดูกันเลย
โดยถ้าเราวิเคราะห์เพิ่มเติมแต่ละบริษัทจากตาราง
เริ่มจากบริษัทแรก อย่าง วิริยะประกันภัยที่เราคุ้นหูคุ้นชื่อกันดี
- วิริยะประกันภัยเป็นหนึ่งในบริษัทที่ออก ประกันโควิด เจอ จ่าย จบ เช่นกัน
- จริงๆแล้วไตรมาสแรกของปีนี้ ถ้ามองที่กำไรขาดทุน วิริยะก็ติดลบนะครับ น่าจะเพราะโควิดสายพันธ์โอไมครอนนั่นแหละ
- แต่วิริยะประกันภัยก็ยังสามารถที่จะรักษากระแสเงินสดของตัวเองไว้ได้อย่างดี
- และจากที่สัมผัสกับลูกค้าของวิริยะประกันภัยมา ก็มีแต่คนชื่นชมว่าประกันโควิดไม่มีจ่ายช้า ประมาณ 14 วันได้เลยตามสัญญา
สรุป ก็ถือว่ายังรักษาชื่อเสียงและมาตรฐานของตัวเองไว้ได้ดีเลยนะครับสำหรับวิริยะประกันภัยหลังวิกฤติ เจอจ่ายจบในครั้งนี้
ต่อมา ทิพยประกันภัย
- ทิพยประกันภัยเป็นบริษัทที่ถือหุ้นใหญ่โดยภาครัฐอยู่แล้ว เรื่องเงินถือว่าเยอะแน่นอน ดูได้เลยจากโลโก้ของเค้า
- เป็นบริษัทที่รอดจากวิกฤต เจอ จ่าย จบ ไปได้ เพราะไม่ทำแผนแบบเจอ จ่าย จบ
- ออกแผนประกันโควิดแบบจ่ายเฉพาะ ‘ค่ารักษาพยาบาล’ ‘ค่าชดเชยรายวัน’ และ ‘ค่าชดเชยรายได้’ เท่านั้น
- แต่ก็มีดราม่ากันอยู่พักนึง เพราะมีลูกค้าไปประท้วงถึงหน้าบริษัทเรื่องไม่จ่ายเคลม เพราะเงื่อนไขกำกวม
สรุป เรื่องงบกระแสเงินสดเยอะก็จริง แต่ก็อาจจะเสียชื่อไปบ้างจากเหตุการณ์ประท้วงที่เกิดขึ้นในปีที่ผ่านมา และ เรื่องเงื่อนไขต่างๆที่อาจจะไม่ชัดเจน คลุมเครือ ทำให้ลูกค้าสับสน
คุ้มภัยโตเกียวมารีน
- ขึ้นมาติดอันดับ 3 ได้ จากการควบรวมบริษัท คุ้มภัย และ โตเกียวมารีน จากบริษัทขนาดกลางสองบริษัท รวมกันเพื่อมาท้าทายเจ้าใหญ่ๆโดยเฉพาะเลยครับ
- เจ้านี้ต้องดูกันต่อไปว่าจะเป็นอย่างไร เพราะ พึ่งควบรวมกันเสร็จเมื่อช่วงปีที่ผ่านมา อาจจะเริ่มตีตลาดมากขึ้นในปี 2565 นี้
https://www1.tokiomarine.com/th/th-general/about-us/media-news/tokio-marine-safety-insurance-launch.html
สำหรับ เมืองไทยประกันภัย กับ ไทยวิวัฒน์ประกันภัย ขอข้ามไปแล้วกันนะครับ สถานการณ์ปกติดี ในปีที่ผ่านมา ไม่ได้มีข่าวอะไรพิเศษด้วย
มาที่กรุงเทพประกันภัยเลยแล้วกัน
- สำหรับเจ้านี้เป็นเจ้าที่ใหญ่สำหรับผมนะครับ ผมเคยได้ยินชื่อมานาน ลูกค้าก็ค่อนข้างเยอะด้วย
- แต่พอมาดูงบกระแสเงินสดก็แปลกใจเล็กน้อยที่พอเทียบกับเจ้าอื่นๆแล้ว ก็อาจจะไม่ได้เยอะมากมาย
- แต่ถ้ามาดูรายได้เนี่ย ในปี 2564 ถือเป็นอับดับต้นๆเลยนะครับ เป็นรองแค่วิริยะประกันภัยบริษัทเดียวเท่านั้น
- ก็ตรงนี้เค้าอาจจะพอใจรักษากระแสเงินสดไว้ประมาณนี้ก็ได้นะครับ
- แต่ก็เป็นอีกเจ้าที่ค่อนข้างเจ็บกับโควิดพอสมควร ถ้าเราดูกำไรขาดทุนในปี 2564 มาถึง 2565 ก็จะเห็นว่าหายไปเยอะทีเดียว แต่ก็ยังดีที่ปีก่อนๆกำไรมากพอที่จะหักลบกันได้
สุดท้ายที่ ธนชาติประกันภัย
- ก็เป็นน้องใหม่ในตลาดประกันภัยพอสมควรนะครับ แต่ทุนหนาปึ้กแน่นอน หลายๆคนก็น่าจะพอเดาได้ว่า เป็นบริษัทลูกของเครือธนาคารที่พึ่งควบรวมกิจการกัน คือ TTB ก็จับตากันครับว่าบริษัทนี้จะเป็นยังไงต่อไป
- ได้ข่าวว่าปีนี้งบหนา พยายามจะตีตลาดประกันรถยนต์ให้ได้ด้วย
โดยการดู งบกระแสเงินสดครั้งนี้ ก็จะเป็นการดูเรื่องของความแข็งแกร่งของฐานะการเงินเท่านั้นนะครับ ไม่ได้หมายถึงเรื่องของบริการหลังการขาย ราคาประกันต่างๆ บางเจ้ารวยแต่อาจจะบริการไม่ดีก็ได้นะครับ
วันนี้เล่าให้ฟังถึงความมั่นคงทางการเงินเท่านั้น วันหลังจะมาเล่าให้ฟังเรื่องอื่นๆ ในแง่มุมอื่นๆบ้างนะครับ ^^
เปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์
ประกันรถยนต์
- ราคา
- ความคุ้มครอง
- เงื่อนไข
- การผ่อน