การเฉี่ยวชนบนท้องถนนนี่เป็นอะไรที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแน่นอน เพราะมันทั้งเสียเวลา เสียทรัพย์สิน บางทีอาจเกิดการบาดเจ็บเป็นอันตรายถึงชีวิตได้เลย ซึ่งการเฉี่ยวชนนี้มันมีทั้งชนคน ชนรถ ชนเสาไฟฟ้า แต่ละอย่างก็จะเคลมประกันแตกต่างกันออกไป วันนี้เพื่อให้เพื่อน ๆ ได้เข้าใจถึงหลักในการเคลมประกันมากขึ้น เราจะเจาะลึกถึงการเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีกัน แล้วมันจะยุ่งยากหรือจะง่ายดายแค่ไหน ไปดูกันเลย
เคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีคืออะไร ?
หลายคนยังคงสงสัยว่าการเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีคืออะไร มันก็คือการที่เราไปเฉี่ยวชนอะไรสักอย่างนึงมา โดยไม่สามารถบอกได้ว่าความเสียหายนั้นมันเกิดจากอะไร หรือไม่มีคนผิดนั่นเอง ประมาณว่า ชนหมา ชนแมว ชนกระถางต้นไม้ ชนเสาไฟฟ้า ชนรั้วบ้าน หรือโดนชนแล้วหนี หาคู่กรณีไม่เจอ อันนี้ก็เรียกได้ว่าเป็นการเคลมแบบไม่มีคู่กรณีเช่นกัน ทีนี้เพื่อน ๆ ก็จะเริ่มสงสัยต่อกันแล้วใช่มั้ยครับว่า แล้วแบบนี้เราจะเคลมยังไง ในเมื่อไม่มีคนผิด…
เคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณียังไง ?
การเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณีนั้นสามารถทำได้ครับ โดยถ้าเราชนกับพวกสิ่งของที่ไม่ใช่รถยนต์ด้วยกัน อย่าง กระถางต้นไม้ รั้วบ้าน เสาไฟฟ้า อะไรพวกนี้ ถือว่าสิ่งนั้นเป็นคู่กรณีของเราทั้งสิ้น แต่เราก็ต้องบอกเค้าได้ด้วยนะว่า เหตุการณ์เหล่านั้นมันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ที่ไหน ไม่ใช่ไปโมเมกับเค้าล่ะ
หลังจากเฉี่ยวชนแล้วให้เรารีบดำเนินการโทรหาเจ้าหน้าที่ประกันภัยเพื่อขอเคลมประกันเลยครับ อย่ามัวแต่รอเวลา หรือผัดวันประกันพรุ่ง เพราะทางประกันเค้าอาจจะเฉไฉได้ว่าเหตุเกิดนานแล้ว ทำไมเพิ่งมาแจ้ง แล้วมันจะทำให้มีปัญหาปวดหัว ต้องมานั่งเจรจากันยืดยาวเสียเวลานั่นเอง
สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนที่ชนกับรถยนต์ด้วยกัน แต่คู่กรณีดันหนีหายเข้ากลีบเมฆ เค้าก็นับว่าเป็นการชนแบบไม่มีคู่กรณีเช่นกันครับ ซึ่งเราไม่ต้องไปเสียเวลาตามหาคู่กรณีจนเจอนะ ให้ทำการบอกกับประกันเค้าไปตรง ๆ ได้เลย ว่าเราโดนชนแล้วหนี
เอกสารที่ต้องเตรียมเพื่อเคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี
หลังจากยกหูโทรศัพท์โทรแจ้งทางเจ้าหน้าที่ประกันภัยเรียบร้อยแล้ว ก็มาถึงคราวจัดเอกสารเพื่อรอยื่นเป็นหลักฐานให้กับเค้าเมื่อมาถึง ซึ่งเอกสารที่เราต้องเตรียมไว้ในการเคลมประกันมีดังนี้…
- สำเนาทะเบียนรถ
- สำเนากรมธรรม์
- สำเนาใบขับขี่
- สำเนาบัตรประชาชน
- ในกรณีโดนชนแล้วหนี ให้เตรียมสำเนาบันทึกประจำวันไว้ด้วย
เคลมประกันแบบไม่มีคู่กรณี เอกสารพร้อม รอเอารถเข้าซ่อมได้เลย
หลังจากที่เราได้ทำการเตรียมเอกสารทุกอย่างจนครบเรียบร้อยแล้ว เมื่อประกันมาถึงก็ให้ส่งเอกสารเหล่านี้ให้เค้าเป็นหลักฐานการเคลมประกันได้ทันทีเลย โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ประกันภัยเค้าเห็นร่องรอยความเสียหายแล้วเค้าก็จะสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเราอีกเล็กน้อย แล้วออกใบเคลมประกันให้เราพร้อมกับหมายเลขเคลมนั่นเอง ซึ่งเราสามารถนำใบเคลมประกันนี้ไปเข้าอู่หรือศูนย์ได้เลยค่ะ
หลังจากได้ใบเคลมประกันเรียบร้อยแล้วก็เอาไปติดต่อกับอู่หรือศูนย์ใกล้บ้าน หรือที่เพื่อน ๆ สะดวก เพื่อนัดวันเวลาเอารถเข้าซ่อมและวันรับรถ ซึ่งระหว่างดำเนินการบางที่ก็จะมีรถยนต์สำรองให้เราไว้ใช้งานไปพลาง ๆ ก่อนด้วย ซึ่งตอนรับรถเพื่อน ๆ ก็แค่เซ็นเอกสารรับรถ แล้วอย่าลืมเตรียมพวกสำเนาใบขับขี่ สำเนากรมธรรม์ สำเนาทะเบียนรถติดไว้ด้วยนะคะ
เคล็ดลับการเคลมประกันแบบเทพ ๆ สำหรับประกันชั้น 1 ที่ทำให้เราไม่ต้องเสียค่าเสียหายส่วนแรก
สำหรับการเคลมประกันนั้นไม่ใช่ว่าเราอยากจะเรียกมาเคลมที่ไหน เมื่อไหร่ก็ได้นะครับ เพราะมันไม่ใช่บริการฟรี ไม่งั้นชนนิดชนหน่อยคนเค้าก็เรียกเคลมกันหมดแล้ว บริษัทประกันก็ปวดหัวตายเลยล่ะสิ ดังนั้นเค้าจึงต้องมีค่าเสียหายส่วนแรกที่เราต้องจ่ายเวลาขอเคลมประกันอยู่ ซึ่งค่าเสียหายส่วนแรกเนี้ย น้อยคนนักที่จะรู้ว่าเราไม่ต้องจ่ายก็ได้ โดยวิธีที่จะทำให้เราเลี่ยงค่าเสียหายส่วนแรกไปได้ก็คือ…
- ห้ามบอกว่า “ไม่รู้ว่ารอยนี้ไปโดนอะไรมา”
- ถ้าบอกว่าไปชนคันอื่นมา แต่ไม่มีหลักฐาน ไม่มีคู่กรณี ก็โดนค่าเสียหายส่วนแรกอยู่ดี (ถ้าระบุคู่กรณีได้ ไม่ต้องเสีย)
- ต่อให้รถโดนขูด หรือโดนคนอื่นกลั่นแกล้ง ก็ห้ามบอกออกไปตรง ๆ เด็ดขาด เพราะจะทำให้โดนเก็บค่าเสียหายส่วนแรกนั่นเอง
- ถ้าไม่อยากเสียค่าเสียหายส่วนแรก “ต้องแจ้งพนักงานว่าเราขับไปชนสิ่งไม่มีชีวิตต่าง ๆ เช่น กระถางต้นไม้ เสาไฟฟ้า ฟุตบาท”
