แค่ 8 อย่างก็พอ ที่ต้องเช็ครถยนต์ ก่อนเดินทางไกล

ก่อนเดินทางไกล ควรเช็ครถยนต์ส่วนไหน อะไรบ้าง

ก่อนเดินทางไกล ใช้เวลาซัก 10-15 นาที เช็คส่วนต่างๆของรถยนต์ก่อนดีกว่านะครับ เพื่อความปลอดภัยและความสบายใจของตัวเราเอง วันนี้เว็บเปรียบเทียบประกันรถยนต์ Priceza Money รวบรวม 8 จุดสำคัญที่ต้องเช็คก่อนออกเดินทางไกลมาให้ครับ

8 จุดสำคัญของรถยนต์ ต้องเช็คก่อนเดินทางไกล

  1. ยางรถยนต์
  2. น้ำมันเครื่อง
  3. น้ำมันเบรค
  4. น้ำยาหล่อเย็น
  5. ที่ปัดน้ำฝน
  6. ประกันรถยนต์
  7. อุปกรณ์ใช้ตอนฉุกเฉิน
  8. เช็คไฟสัญลักษณ์บนหน้าปัด

ยางรถยนต์

  • เบื้องต้นที่สุดก็คือการเช็คลมยางให้เต็มพอดีกับมาตรฐานของรถ *ดูในคู่มือของรถได้ว่าต้องเติมเท่าไหร่
  • และเช็คสภาพยางว่ายังมีสภาพดี *ไม่บวมผิดปกติ ไม่แตกลายงา ยังมีร่องดอกยางอยู่
  • นอกจากนี้อย่าลืมเช็คยางอะไหล่ให้พร้อมด้วย *เผื่อในกรณียางแตกหรือมีปัญหากลางทาง
ยางรถยนต์เป็นส่วนสำคัญส่วนแรกๆเลยที่ต้องเช็ค เพราะถ้ายางเสื่อมสภาพอาจอันตรายถึงชีวิตได้เลย
เปลี่ยนยางรถยนต์

น้ำมันเครื่อง

เช็คระดับน้ำมันเครื่องให้ดีก่อนออกเดินทาง วิธีง่ายๆคือ
  • ดึงก้านน้ำมันเครื่องออกมา
  • เตรียมกระดาษทิชชู่เช็ดก้าน 1 รอบ
  • เสียบก้านกลับไปเข้าไป
  • ดึงออกมาใหม่จะเห็นระดับน้ำมันเครื่องว่าอยู่ประมาณไหน
ถ้ามีระดับต่ำ เราอาจเติมน้ำมันเครื่องเข้าไปเองได้ก่อนออกเดินทาง แต่ถ้าต่ำจนผิดปกติแนะนำให้เอารถเข้าอู่ก่อน และอย่าลืมถ่ายน้ำมันเครื่องแบบสม่ำเสมอด้วยนะ
เช็คน้ำมันเครื่อง

น้ำมันเบรค

น้ำมันเบรคจะเป็นถังเล็กๆอยู่ในห้องเครื่องมีสัญลักษณ์กลมๆสีเหลืองแปะอยู่ ให้เช็ค 2 อย่างคือ

  • ระดับน้ำมันเบรคว่าตกไปถึงระดับ min หรือเปล่า
  • สีของน้ำมันเบรคขุ่นดำ หรือมีสิ่งแปลกปลอมมั้ย
ถ้ามีข้อใดข้อหนึ่งอาจทำให้ระบบเบรคมีปัญหา เป็นที่มาของการเบรคไม่อยู่ได้
น้ำมันเบรค

น้ำยาหล่อเย็น

สังเกตถังน้ำที่มีน้ำสีๆ อาจจะเป็นสีชมพู หรือ สีน้ำเงิน ที่อยู่ในห้องเครื่อง ให้เช็คระดับว่าต่ำเกินไปหรือเปล่า (ดูจากขีด min-max) *ถ้าน้ำยาหล่อเย็นต่ำเกินไปอาจทำให้ความร้อนของรถขึ้นสูงได้ และเครื่องยนต์อาจจะพังได้

น้ำยาหล่อเย็น

ที่ปัดน้ำฝน

ก่อนถึงวันที่จะใช้รถเดินทางไกล ให้ลองเปิดที่ปัดน้ำฝนดูประสิทธิภาพว่าสามารถปัดน้ำออกได้ตามปกติไหม? เพราะถ้าเดินทางไกลแล้วเจอพายุฝนขึ้นมา อาจเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้เลย จากทัศนวิสัยที่ไม่ดี

ที่ปัดน้ำฝน

ประกันรถยนต์

อีกอย่างที่ขาดไม่ได้ก็คือประกันรถยนต์ ที่จะช่วยบรรเทาความเสียหายจากอุบัติเหตุให้เรา

ยิ่งเป็นการเดินทางไกล ก็จะทำให้มีความเสี่ยงเรื่องการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ห้ามปล่อยให้ประกันรถยนต์ขาดเด็ดขาด

ใครมีงบประมาณเยอะหน่อยก็ทำ ประกันรถยนต์ชั้น 1 เลย แต่ถ้าแพงเกินไปอาจลดลงมาแค่ ประกันชั้น 2+ หรือ ประกันชั้น 3+ ก็ยังดีกว่าไม่มีประกันเลย

อุปกรณ์ใช้ตอนฉุกเฉิน

เพราะไม่ว่าเราจะเช็ครถยนต์ของเราดีแค่ไหน ก็อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อยู่ดี เราควรมีแผนรับมือไว้ตั้งแต่เนิ่นด้วย เช่น

  • สายจั๊มแบตเตอรี่ กรณีแบตฯหมด
  • ประแจตัว L กับแม่แรง กรณีต้องเปลี่ยนยางสำรองด้วยตัวเอง
  • แผ่นป้ายสามเหลี่ยม กรณีรถจอดเสียบนถนน ป้องกันรถชนท้าย
อุปกรณ์ฉุกเฉินกลางถนน

เช็คไฟสัญลักษณ์บนหน้าปัด

ตอนสตาร์ทเครื่องให้เช็คไฟบนหน้าปัดว่ามีอะไรแจ้งเตือนเราบ้าง นั่นจะเป็นสัญญาณที่บอกว่ารถยนต์ของเราผิดปกติตรงไหน

  • ไฟวงกลมมีเครื่องหมายตกใจ > เตือนเบรคมือไม่ได้เอาลง
  • ไฟคล้ายรูปเรือใบ > เตือนอุณหภูมิผิดปกติ
  • ไฟรูปตะเกียง > เตือนระดับน้ำมันเครื่องต่ำ
  • ไฟรูปพวงมาลัย > เตือนพวงมาลัยทำงานผิดปกติ
ยังมีอีกหลายไฟ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นรูปตรงตัวเช่น รูปแบตเตอรี่ก็หมายความว่าแบตเตอรี่มีปัญหา เป็นต้นครับ
สัญญาณบนหน้าปัด

สรุป

ก่อนเดินทางไกลควรเช็ครถยนต์ของเราก่อนเพื่อความปลอดภัยของเราและเงินในกระเป๋าด้วย

แต่ขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุ เช็ครถยนต์ดีแค่ไหนก็อาจจะเกิดขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเราควรจะเตรียมอุปกรณ์รับมือไว้ในยามฉุกเฉินด้วย และห้ามลืมทำประกันรถยนต์ก่อนเดินทางไกลโดยเด็ดขาด ใครยังคิดไม่ออกว่าทำที่ไหนดี ก็แวะเข้าไป เปรียบเทียบประกันรถยนต์ได้ที่ Priceza Money ได้เลยนะครับ

Share:

Facebook