การจะมีรถยนต์เป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องยากอะไรสักเท่าไหร่ เพราะขอแค่มีงานมีการดี ๆ ทำ มีเงินสักก้อนนึง ก็สามารถดาวน์รถออกมาขับร่อนกันได้แล้วละ ซึ่งความยากจริง ๆ นั้นก็คือการดูแลรักษารถยนต์ให้ปลอดภัย และอยู่คู่กับเราไปนาน ๆ ต่างหาก
เพราะรถยนต์เป็นสิ่งของที่เราต้องใช้อยู่ทุกวัน ทำให้การสึกหรอนั้นเกิดขึ้นเร็วกว่าสิ่งของอย่างอื่น ด้วยเหตุนี้แหละอย่างน้อย ๆ เราถึงต้องมีสกิลการสังเกตติดตัวเอาไว้ด้วย เพื่อให้ยืดอายุการใช้งานของรถออกไปได้มากขึ้น ต้องหมั่นคอยสังเกตว่ารถยนต์ของเรามีเสียงอะไรแปลกปลอมดังขึ้นระหว่างขับขี่มั้ย เบรกเป็นยังไงบ้าง หนึบเหมือนวันแรก ๆ อยู่รึเปล่า รถเร่งไม่ไปมั้ย ลมยางแต่ละล้อเป็นยังไง สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่เราต้องหมั่นตรวจสอบและคอยสังเกตอยู่ประจำ
เดี๋ยวนี้รถยนต์รุ่นใหม่ ๆ เค้าก็ออกแบบมาเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานของเพื่อน ๆ มากขึ้น เพราะไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์สามารถบอกอาการต่าง ๆ ได้แบบครบถ้วน ว่ามีส่วนไหนที่ผิดปกติอะไรรึเปล่า ทำให้เราไม่ต้องรอให้อาการมันฟ้อง แค่ดูที่ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ก็สามารถรู้ได้เลยว่าตอนนี้ระบบภายในของรถเราส่วนไหนที่มีปัญหา แต่จะมีปัญหานิดหน่อยตรงที่ว่ามีเพื่อน ๆ หลายคนยังไม่รู้ว่าสัญลักษณ์ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์มันคืออะไรบ้าง ซึ่งวันนี้เราจะมาอธิบายถึงเรื่องนี้แบบเจาะลึกกัน ให้เข้าใจไปเลยว่าแต่ละอันคืออะไร แล้วตัวไหนที่ควรระวัง
สัญลักษณ์ ความร้อน
ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ตัวแรกที่ต้องเรียนรู้ให้ไวเลยก็คือเรื่องของความร้อนในตัวเครื่องยนต์นี่แหละ เพราะมันแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ของเราร้อนเกินกว่าปกติ ซึ่งถ้าฝืนขับต่อไปก็อาจทำให้เครื่องยนต์ Over Heat จนพังได้ ซ่อมทีงานนี้เสียเงินบานแน่ โดยสัญลักษณ์ความร้อนก็จะมีทั้งแบบเข็ม และแบบดิจิทัล ถ้าเป็นแบบเข็มให้ระวังอย่าให้ความร้อนขึ้นสูงเกินครึ่ง แต่ถ้าเป็นแบบดิจิทัลถ้าสัญลักษณ์นี้โผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่ให้รีบจอดข้างทางดับเครื่องให้ไวเลย ห้ามขับต่อเป็นอันขาด
สัญลักษณ์ แบตเตอรี่
ไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์ตัวต่อไปที่ไม่ใส่ใจไม่ได้เลยก็คือ สัญลักษณ์แบตเตอรี่ ซึ่งหลาย ๆ คนชอบเข้าใจผิด คิดว่าถ้าสัญลักษณ์ตัวนี้ขึ้นโชว์ที่หน้าปัดหมายถึงว่าแบตรถเราใกล้จะหมด ให้รีบหาคันอื่นพ่วง ทั้ง ๆ ที่ในความเป็นจริงแล้ว สัญลักษณ์นี้หมายความว่าไดชาร์จกำลังมีปัญหา แหล่งกำเนิดไฟของรถเราบกพร่อง เพราะฉะนั้นถ้าเห็นสัญลักษณ์นี้โผล่ขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ไม่ต้องตกใจไป เพราะเรายังสามารถขับต่อไปได้จนถึงอู่ซ่อมนู่นแหละ
สัญลักษณ์ น้ำมันเครื่อง
มาถึงคราวไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษอย่าง น้ำมันเครื่องกันแล้ว บอกเลยว่าถ้าสัญลักษณ์นี้แสดงขึ้นมาเมื่อไหร่ ให้รีบจอดข้างทางให้ไวที่สุด เพราะแสดงว่าน้ำมันเครื่องรถเราขาด ถ้าฝืนขับต่อไปก็จะทำให้เครื่องพังได้ง่าย ๆ แล้วก็อย่างที่เคยบอกไปว่า เสียเงินซ่อมกันบานแน่ ดังนั้นหลังจอดเสร็จก็รอให้เครื่องเย็นลงสัก 30 นาที – 1 ชั่วโมง แล้วค่อยเปิดเช็กน้ำมันเครื่องดูว่าขาดมั้ย ถ้าขาดก็ไปซื้อน้ำมันเครื่องจากปั๊มมาเติมได้ แต่ถ้าไม่ขาด อันนี้ก็อาจจะต้องเข้าอู่ให้เค้าเช็กดูว่าเป็นที่อะไรกันแน่ เพราะบางทีอาจเป็นที่ระบบไฟในรถรวนเฉย ๆ ก็ได้
สัญลักษณ์ เบรก
ถ้าสัญลักษณ์เบรกขึ้นไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์เมื่อไหร่ก็ไม่ต้องตกใจไปนะ เพราะบางทีเราอาจจะแค่ดึงเบรกมือลงไม่สุดเท่านั้นก็ได้ แต่ถ้าตรวจสอบแล้ว ดึงเบรกมือลงจนสุดแล้วสัญลักษณ์ยังไม่หายไป ไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ยังขึ้นโชว์อยู่ แสดงว่าเป็นที่ระบบเบรกจริง ๆ แล้วล่ะ อาจจะเกิดจากสาเหตุที่ว่าน้ำมันเบรกน้อยกว่าระดับปกติ ซึ่งถ้าฝืนใช้ไปอย่างนั้นก็ต้องอันตรายแน่นอน จะให้ดีถ้ามีไฟเตือนขึ้นมาเมื่อไหร่ ก็รีบไปให้อู่ ให้ศูนย์เค้าเช็กน้ำมันเบรกให้ดีที่สุด
สัญลักษณ์ ABS
อีกหนึ่งไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ที่น่าตกใจ โชว์ขึ้นมาเมื่อไหร่เป็นต้องสติแตกทุกทีก็คือ สัญลักษณ์ ABS นี่แหละ ซึ่งหลาย ๆ คนชอบคิดว่ามันเกี่ยวข้องกับระบบเบรก แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย ABS เป็นระบบป้องกันการเบรกกะทันหัน ช่วยให้รถของเราหยุดอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น ไม่ได้เกี่ยวกับการเบรกปกติเลย ดังนั้นถ้าสัญลักษณ์นี้โผล่ขึ้นมาก็ไม่ต้องตกใจ เพราะเรายังสามารถใช้รถไปได้อีกยาว ๆ แค่ตอนเบรกกะทันหันระบบ ABS อาจจะไม่ทำงานเท่านั้นเอง
สัญลักษณ์ เครื่องยนต์
มาถึงไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์ตัวสุดท้ายที่เพื่อน ๆ ควรจะเรียนรู้ไว้กันแล้ว นั่นก็คือสัญลักษณ์ของเครื่องยนต์นั่นเอง ซึ่งเจ้าตัวนี้ก็สำคัญไม่แพ้ตัวอื่น ๆ และอันตรายมากเช่นกัน เนื่องจากมันแสดงให้เห็นว่าเครื่องยนต์ของเราทำงานผิดปกติ ที่ยังขับได้อยู่ ณ ตอนนี้ก็อาจเป็นเพราะเครื่องยนต์ใช้ระบบสำรองอยู่ก็ได้ ซึ่งมันก็จะใช้ได้ไม่นานหรอก ให้เรารีบขับเข้าศูนย์เพื่อเช็กดูว่ามันเกิดจากอะไรกันแน่ อย่าได้ฝืนใช้ไปทั้งอย่างนั้นเชียวล่ะ เดี๋ยวจะยิ่งแย่ไปกว่าเดิม
จริง ๆ แล้วรถรุ่นใหม่ ๆ ก็จะมีไฟเตือนหน้าปัดรถยนต์ที่นอกเหนือจากสัญลักษณ์เหล่านี้อีกเยอะมากที่เพื่อน ๆ ต้องทำความรู้จักกับมันว่ามันคืออะไร เตือนเรื่องอะไรบ้าง จะได้ใช้งานรถยนต์ได้อย่างอุ่นใจมากขึ้น หรือถ้าอยากหมดปัญหาจริง ๆ ก็แนะนำให้ทำประกันภัยติดรถยนต์ไว้ด้วยเลย เพราะถ้าเกิดเราเผลอเรอไม่ทันได้สังเกตไฟโชว์หน้าปัดรถยนต์ แล้วรถเกิดเป็นอะไรขึ้นมา อย่างน้อย ๆ ประกันภัยเหล่านี้เค้าก็สามารถคุ้มครอง ช่วยเหลือ และบริการเราอย่างดี ทำให้ไม่ต้องประสบปัญหาและรับมือกับมันโดยลำพัง ก็นับว่าเป็นตัวช่วยที่มีประโยชน์มากเลยล่ะ
